สวนรื่นฤดี 1 พ.ค. – กอ.รมน.ภาค 4 ร่วมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และ กกล.เทพสตรี ตรวจสอบพบข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐมีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดรุกที่สาธารณะ พร้อมส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.-ปปง. เร่งตวจสอบตามกระบวนการ
พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. ชี้แจงกรณีที่มีข้อร้องเรียนปัญหาอิทธิพลในพื้นที่ชายแดน จ.ชุมพร-ระนอง ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านี้ กอ.รมน.ภาค 4 ได้รับการประสานจากส่วนสอบสวน 4 สำนักสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เนื่องจากมีข้อเรื่องร้องเรียนจากประชาชนใน จ.ชุมพร กรณีมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ที่มีพฤติการณ์ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเป็นภัยต่อความมั่นคงภายใน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ สืบสวน และสอบปากคำพยานในพื้นที่ พบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน รวมกว่า 10 ราย ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการ เช่น การบุกรุกพื้นที่สาธารณะ ปลูกพืชผลอาสินโดยมิชอบ การนำเข้าสินค้าทางเกษตรโดยผิดกฎหมาย และลักลอบขนย้ายแรงงานชาวโรฮีนจาเข้าประเทศ ซึ่งถือเป็นความผิดที่กระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ
โดยคณะทำงานฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสรุปสำนวนการสอบสวนและบันทึกคำให้การของพยาน ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. และกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง และพิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกระบวนการของกฎหมาย
ขณะเดียวกันกองทัพบก โดยกองกำลังเทพสตรี ได้เพิ่มความเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องเ พื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในพื้นที่เชิงรุก ปิดกั้นเส้นทางทำเครื่องกีดขวางในพื้นที่สุ่มเสี่ยง 4 จุด ปิดกั้นช่องทางธรรมชาติ 5 ช่องทาง และจัดตั้งชุดลาดตระเวนเพิ่มเติม 3 ชุด ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ รวมถึงการลักลอบกระทำผิดตามแนวชายแดนลดลงเป็นลำดับ
ทั้งนี้ กอ.รมน. จะมุ่งมั่นในการบูรณาการและขับเคลื่อนภารกิจด้านความมั่นคงทั้งในมิติการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการแก้ไขปัญหาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการเข้าแก้ไขปัญหา เสริมสร้างความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงให้แก่ประเทศ และหากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เพื่อให้สามารถเข้าระงับเหตุและดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที.-313-สำนักข่าวไทย