ม.หอการค้าปรับตัวเลขเศรษฐกิจปี 61 โตร้อยละ 4.6

กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โตเกินกว่าที่คาด จึงปรับประมาณการณ์ใหม่โตร้อยละ  4.6 เดิมโตร้อยละ 4.5 ชี้โอกาสเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้กลางปีหน้า


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า หลังจากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทยขยายตัวดีต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการเริ่มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะข้าวเปลือก อ้อย และข้าวโพด ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐมีโอกาสเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปหนุนให้เศรษฐกิจไทยตลอดปีนี้ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.6 เป็นอย่างน้อยและมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตที่ร้อยละ 4.5 ขณะที่ตัวเลขการส่งออกโตร้อยละ 8.7 และอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ร้อยละ 1.2 

อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขที่ได้ปรับประมาณใหม่ โดยเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยลบในช่วงที่เหลือของปี 2561 ที่ยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ได้แก่ สงครามการค้าสหรัฐกับจีน ดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และยังมีความเสี่ยงจากวิกฤติค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ ทำให้ค่าเงินอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวมรวม แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการพิจารณาปรับดอกเบี้ยนโยบายจากขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ขึ้นอีก แต่กระทรวงการคลังเห็นว่าตอนนี้จนถึงปีหน้ายังไม่ควรที่จะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับทางศูนย์พยากรณ์ฯ มองว่าดอกเบี้ยนโยบายไม่ควรปรับขึ้นขณะนี้ เพื่อให้เกิดการออม หรือให้เกิดการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย แต่เห็นว่าเวลาที่เหมาะสมน่าจะปรับขึ้นไตรมาส 2 ปีหน้าแบบค่อยขยับร้อยละ 0.25 และปลายปีเพิ่มอีกร้อยละ 0.25 ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายถึงสิ้นปีหน้าจะอยู่ที่ร้อยละ  2 คิดว่าเป็นอัตราที่เหมาะสม และสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีหน้าได้ และคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2562-2565  คือ ปี 2562 จะเติบโตร้อยละ 4.5 ปี 2563 เติบโตร้อยละ 4.8 ปี 2564 เติบโตร้อยละ 4.6 และปี 2565 เติบโตร้อยละ 5 เป็นต้น


ทั้งนี้ คงต้องติดตามแม้จะมีวันเลือกตั้งที่ชัดเจนแล้ว แต่ต้องดูว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปลดล็อกมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่าช่วงใกล้เลือกตั้งจะมีเงินสะพัดต่อการเลือกตั้ง 30,000-40,000 ล้านบาท เป็นการสร้างความเชื่อมั่นทั้งคนในประเทศและต่างประเทศจะดึงการลงทุนด้านต่าง ๆ กลับมาดีขึ้นได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

เปิดปมสังหารยกครัว 4 ศพ แค้นชู้สาว

เปิดปมเหตุสลดฆ่ายกครัว 3 ศพ ก่อนผู้ก่อเหตุยิงตัวเองเป็นศพที่ 4 ใน จ.สมุทรปราการ พบข้อมูลว่าความแค้นครั้งนี้มาจากเรื่องชู้สาว แต่ลูกชายของผู้ตายยังไม่เชื่อว่าแม่มีความสัมพันธ์กับมือปืน แต่ยอมรับมือปืนให้เงินแม่ใช้ทุกวัน

ศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” ชี้พฤติการณ์ร้ายเเรง

ทนายเผยศาลไม่ให้ประกัน “สามารถ” เพราะพฤติการณ์ร้ายเเรง เตรียมยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกัน ด้าน “แม่สามารถ” วอนผู้มีอำนาจอย่าเอาความลูกชายตน ลั่นหลังจากนี้จะสู้เพื่อความยุติธรรม