หนุ่มอุบลฯ คลั่ง หักแขนยายวัย 74 หัก 2 ข้างเจ็บสาหัส

อุบลราชธานี 12 ก.ย.-หนุ่มอุบลฯ คลั่ง ไถเงินยายข้างบ้าน วัย 74 กลางดึก ปฏิเสธไม่มีเงินให้ถูกทำร้ายหักแขน 2 ข้างเจ็บสาหัส ญาติข้องใจการทำงานของตำรวจ ปล่อยให้ลอยนวลอยู่ในหมู่บ้าน แต่ล่าสุดตำรวจได้แจ้งข้อหากับหนุ่มคนดังกล่าวแล้ว ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส ก่อนคุมตัวไปฝากขังศาลจังหวัดอุบลราชธานีแล้ว


เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Supapon Chingphom โพสต์ภาพหญิงสูงวัยได้รับบาดเจ็บที่แขนทั้ง 2 ข้าง คล้ายกระดูกหัก ระบุข้อความ “เป็นคำถามของประชาชน ทุกท่านที่รอดูและรอคำตอบ 4-5 วัน ยังอยู่แบบสบาย ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะตอบพี่ได้เลยค่ะว่าเพราะอะไร คนร้ายเดิน กินอยู่แบบสบาย เหตุเกิดกับนางจันทา ชิงพรม บ้านเลขที่ 41 หมู่ 7 บ้านหนองช้างใหญ่ ตำบลหนองช้างใหญ่ อำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลฯ”

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามนางสุภาพร พิมพรัตน์ อายุ 47 ปี ลูกสาวของหญิงคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเที่ยงคืนวันที่ 8 ก.ย. ขณะที่นางจันทา ชินพรม มารดา อายุ 74 ปี อยู่บ้านเพียงลำพัง ถูกนายพงศ์พันธ์ ทองคำวัน อายุ 33 ปี เพื่อนบ้าน เปิดประตูเข้าไปหาและบอกต้องการเงิน 3,000 บาท เมื่อไม่มีให้ นายพงศ์พันธ์จึงทำร้ายมารดา จับหัวมารดาตนโขกพื้น 3 ครั้ง เหวี่ยงใส่ตู้ทีวีจนแตก เหยียบแขน 2 ข้างจนกระดูกข้างขวาหัก และบิดแขนข้างซ้ายจนหัก มารดาทนไม่ไหวจึงออกอุบายว่าจะไปกดเงินให้ ทำให้นายพงศ์พันธ์ยอมผ่อนคลายและหลับไป โดยมารดาได้ขยับตัวไปซ่อนอยู่ในกระสอบข้าวที่ครัวจนสว่าง และออกมาขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งนางสุภาพรตั้งคำถามคือ นายพงศ์พันธ์ทำร้ายคนแก่ที่ไม่มีทางสู้ ทำให้ชุมชนและชาวบ้านหวาดผวา แต่ผ่านมา 5 วัน กลับยังเดินไปเดินมาในหมู่บ้าน จึงอยากให้ตำรวจจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี


ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ร.ต.อ.ศักดิ์สยาม แผ้วไธสง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ม่วงสามสิบ เจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าผู้ก่อเหตุคือนายพงศ์พันธ์จริง โดยพบว่าก่อนเกิดเหตุนายพงศ์พันธ์ พร้อมลูกชายของผู้บาดเจ็บ รวมถึงลูกสะใภ้ และหลานสาว ได้นั่งดื่มสุราที่หน้าบ้านจนดึก พอแยกย้ายกันจึงมีการก่อเหตุขึ้น ส่วนที่ยังไม่คุมตัวไปดำเนินคดีเพราะในวันดังกล่าวยังต้องรอสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ และต้องรอผลตรวจร่างกายของนางจันทา จากโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อย่างเป็นทางการ ซึ่งเบื้องต้นพบบาดแผลฟกช้ำและท่อนแขนทั้ง 2 ข้างหักละเอียด แต่ล่าสุดได้ความเห็นจากแพทย์มาแล้ว จึงแจ้งข้อหากับนายพงศ์พันธ์ ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายสาหัส ก่อนคุมตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ส่วนผลตรวจยาเสพติดไม่พบว่าผู้ก่อเหตุเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าตำรวจได้ให้ความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง