กระทรวงคลัง 18 ส.ค.- คลังหนุนต่างชาติใช้คริบโต แลกเป็นเงินบาท ใช้จ่ายท่องเที่ยวไทย ทดลอง Sand Box 6 เดือน ร้านค้ารายเล็ก รายใหญ่ รับเงินผ่าน QR-code คาดเงินหมุนเวียน 1.75 แสนล้านบาท
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การทดลองนำร่อง โครงการ ”Touristt Diigipay“ หวังเพิ่มทางเลือกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาท เพื่อให้นำระบบดังกล่าวมารองรับ และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใช้เงินผ่านแอปพลิเคขั่น บนมือถือสมาร์ทโฟน ทดแทนการถือเงินสด เครดิตการ์ด เพื่อใช้จ่ายด้านต่างๆได้สะดวกมากขึ้น โดยมีระบบ KYC เพื่อยืนยันตัวตนของชาวต่างชาติ เพื่อคัดกรองให้มีตัวตน และตรวจสอบย้อนกลับได้ ทุกร้านค้าต่างรับชำระเงินดังกล่าว เพื่อเปิดกว้างให้มากขึ้น
“การทดลองใน Sand BoX 5 ด้วยการให้ใช้จ่ายแสนบาทต่อเดือน สำหรับเอกชนรายใหญ่ และวงเงิน 5 หมื่นบาท สำหรับรายย่อย เพื่ออำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทดลองเป็นครั้งแรก และถือเป็นครั้งแรกของโลกในการเปิดให้แลก คริบโตฯ เป็นสกุลเงินท้องถิ่น เพื่อใช้จ่ายในประเทศ โดย ธปท. เห็นชอบให้ดำเนินการ เพราะไม่ได้พิมพ์เงินใหม่เข้าสู่ระบบ โดยมี สำนักงาน ก.ล.ต. ร่วมดูแลการทดลอง คาดเริ่มใช้ในเร็วๆนี้ ช่วงเดือน ก.ย. 68 และทดลองใช้ 6 เดือน นับว่าการใช้จ่ายผ่านดิจิทัลของไทยอยู่ในแถวหน้าของโลก เมื่อนักท่องเที่ยว นำเงินมาแลกป็นเงินบาท คาดว่าเกิดการใช้จ่ายในประเทศไม่ต่ำกว่า 1.75 แสนล้านบาท” นายพิชัย กล่าว
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การกำหนด Sand BoX จำกัดเพียงวงเงิน โดยไม่จำกัดพื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ชำระเงินได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตอนแรก กำหนดพื้นที่ทดลองเฉพาะ จ.ภูเก็ต หากได้รับความนิยม และระบบมีประสิทธิภาพ จะขยายไปในวงเงินเพิ่มเติม ม จึงต้องเปิดโอกาสให้คนร้านค้าของคนไทย ได้ทดลองให้ทั่วถึงมากขึ้น หลังได้รับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย และดูแลการควบคุมปัญหาฟอกเงิน เพราะหลายคนอาจเป็นห่วงเงินสีเทาจะเข้ามาในระบบ สำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมเปิดรับสมัครให้ผู้ประกอบการ และผู้ให้บริการ หลังได้ทดลองในช่วง 18 เดือน หากระบบใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาถึงเมืองไทย จะ ให้ทำ KYC เพื่อเปิดบัญชีกับผู้ประกอบการดิจิทัล และเปิด Tourist wallet กับผู้ให้บริการ e-money จากนั้นผู้ประกอบการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้แก่ ศูนย์ซื้อขาย ผู้ค้า และนายหน้า ขณะนี้ผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วม 45 ราย หลังได้รับฟังความเห็นกับผู้ประกอบการ มองว่าจะได้รับความสนใจ เพราะนักท่องเที่ยวสามารถนำสินทรัพย์ดิจิทัล มาใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ หากเงินที่เหลือแลกจากเงินบาท คืนกลับไปสกุลเดิม และหากมีความมั่นใจ พร้อมขยายในวงเงินเพิ่มเติม
นายเศกสันฐ์ ง้าวสุวรรณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ช่วยกระจายเงินลงไปสู่ร้านค้ารายเล็กรายน้อย เพราะวงเงินทั้ง 5 หมื่นบาทสำหรับรายเล็ก และยอดเงิน 5 แสนบาทสำหรับเอกชนรายใหญ่ เมื่อใช้จ่ายผ่านคริบโตฯ จึงอยากให้ขยายโครงการให้ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้มากขึ้น จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวกว่า 45 ล้านคน ต่อปี
นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ป.ป.ง. กล่าวว่า ป.ป.ง. พร้อม ช่วยดูแล และตรวจสอบระบบ ในการอำนวยความสะดวกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รองรับการใช้คริบโตฯ มาแลกเป็นเงินบาท โดยจะกำหนดตัวอย่าง คริบโตฯ ที่มีความเสี่ยง เพื่อคอยติดตาม เมื่อดูแลตั้งแต่ต้นทางแล้ว จะหมดปัญหาเรื่องการฟอกเงิน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เติบโต จึงไม่ต้องกังวลปัญหาเงินจากกลุ่มสีเทา จะเข้ามาฟอกเงินในประเทศ
นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ Chief Executive Officer KUCION กล่าวว่า เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผู้ประกอบการ ศูนย์ซื้อขาย ผู้ค้า และนายหน้า ต้องเร่งทำประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับทราบ นโยบายของรัฐบาลไทย เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าไทย ได้ติดติดเปิดบัญชี Tourist wallet เพื่อยืนยันตัวตน โดยผู้ประกอบการ มองว่าจะเปิดช่องทางหนึ่งทำให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะเป็นเพียงการแลกคริบโต เพื่อใช้จ่ายเป็นเงินบาท .-515 สำนักข่าวไทย