กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – “พิชัย“ ยันเดินหน้าเจรจาภาษีกับสหรัฐ แม้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ยอมรับอาจกระทบความเชื่อมั่นกิจกรรมเศรษฐกิจ ยังไม่เห็นสัญญาณต่างชาติชะลอลงทุน เชื่อจีดีพีปี 68 แตะ 2.5% ด้าน “เผ่าภูมิ” ปัดตอบหวยเกษียณ รอความชัดเจน
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีประกาศผลรางวัล และงานแถลง HackLandValue – ราคาประเมินที่ใช่ ใครก็ชอบ จัดโดยกรมธนารักษ์ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) พร้อมขึ้นกล่าวแสดงวิสัยทัศน์ถึงปัญหาที่ดิน ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นใหญ่ของประเทศไทย โดยหนึ่งในปัญหาที่ทำให้การแลกเปลี่ยน การลงทุน เป็นไปด้วยความไม่สะดวก คือราคาไม่ลงตัวทั้งสองฝ่าย อีกเรื่องคือจะทำให้การจัดเก็บภาษีเกี่ยวกับที่ดินเป็นธรรมเกิดขึ้นได้ หากราคาประเมินมีความเป็นธรรม โปร่งใส และอีกปัญหาหนึ่ง คือความแตกต่างระหว่างพื้นที่ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยประเมินราคาที่ดินจะช่วยให้สามารถคำนวณอย่างรวดเร็ว เชื่อว่ากิจกรรมที่กรมธนารักษ์ และ depa ร่วมมือกันจัดขึ้นในครั้งนี้ จะสามารถนำแนวคิดดังกล่าวไปต่อยอด นำไปสู่การใช้ประโยชน์ได้ในที่สุด สำหรับความคืบหน้ากฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ์ ได้ร่างกฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างนำเสนอคณะรัฐมนตรี
นายพิชัย ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ว่าการเกิดสุญญากาศทางการเมืองสามารถเกิดขึ้นได้ และจะสามารถหาทางออกได้ จึงยังไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นราคาที่ดิน แต่ยอมรับว่าอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้บ้าง ทั้งนี้ ยังไม่เห็นสัญญาณการชะลอการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ
ส่วนประเด็นการถูกลดระดับเครดิตเรตติ้ง มองว่าจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งผู้ประเมินจะประเมินได้ว่าจะสถานการณ์จะเป็นไปในทิศทางใด
สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 2568 ซึ่งหลายหน่วยงานได้ปรับประมาณการในระดับมากกว่า 2% แม้จะยังรอความชัดเจนของมาตรการภาษีสหรัฐ โดยเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการไปในทิศทางที่ดีจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยไทยเติบโตแตะที่ระดับ 2.5% ซึ่งการเจรจาการค้ากับสหรัฐในช่วงสุญญากาศทางการเมืองตนจะยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ยังคงพร้อมเจรจาการค้า เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจน เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและสภาในบางประเด็น และพร้อมผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศจนกว่าจะมีการเลือกตั้งแล้วเสร็จ
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำหรับ พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ หรือ สลากกษียณ และการจัดตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ หรือ NaCGA ต้องรอสถานการณ์ที่ชัดเจนก่อนจากรัฐบาลก่อน จึงจะบอกได้ว่าจะเดินหน้าอย่างไร.-516-สำนักข่าวไทย