อธิบดี ปภ. เผย ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดนครพนม บึงกาฬ และเพชรบุรี รวม 17 อำเภอ พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเร็ว
กรุงเทพฯ 25 ส.ค.-นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน “เบบินคา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 – 25 สิงหาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ หนองคาย นครพนม บึงกาฬ และเพชรบุรี รวม 65 อำเภอ ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,180 ครัวเรือน 93,392 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด รวม 17 อำเภอ ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,227 ครัวเรือน 38,875 คน ได้แก่ จังหวัดนครพนม น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาแก อำเภอศรีสงคราม อำเภอนาหว้า อำเภอนาทม และอำเภอบ้านแพง
จังหวัดบึงกาฬ น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองบึงกาฬ อำเภอบุ่งคล้า อำเภอโซ่พิสัย อำเภอปากคาด อำเภอศรีวิไล อำเภอบึงโขงหลง อำเภอเซกา และอำเภอพรเจริญ และ จังหวัดเพชรบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแก่งกระจาน อำเภอท่ายาง อำเภอบ้านลาด และอำเภอบ้านแหลม ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีมีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย