เอกชนรอความชัดเจนนโยบายไฟฟ้าของรัฐบาล

กรุงเทพฯ 23 ส.ค. – เอกชนรอความชัดเจนนโยบายกระทรวงพลังงานทั้งแผนพีดีพีและการต่ออายุเอสพีพี โดยเอ็กโกพร้อมลงทุนทั้งสร้างโรงไฟฟ้าขนอม-บีแอลซีพี 2  และไฟฟ้าใน สปป.ลาวป้อนไทย ยอมรับบาทผันผวนกระทบกำไร ขณะที่ปีนี้จะจบ 2-3 ดีลใหม่ กำลังผลิตมากกว่าที่ขายไป 317 MW


นายจักษ์กริช พิบูลย์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือเอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในขณะนี้รอความชัดเจนนโยบายเรื่องการจัดทำแผนพัฒนาไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) ฉบับใหม่ ที่กระทรวงพลังงานกำลังจะทำเป็นแผนรายภาค รวมถึงนโยบายการต่ออายุการรับซื้อโรงไฟฟ้าภาคเอกชนรายเล็ก (เอสพีพี)  ซึ่งในส่วนของเอสพีพีของเอ็กโกที่จะหมดอายุใน 5-6 ปีข้างหน้ามี 4 โรง ในขณะนี้ลูกค้ามีการสอบถามตลอดว่าจะดำเนินการอย่างไร เอกชนได้แต่ตอบว่ารอนโยบายรัฐ หากออกมาแล้วไม่คุ้มต่อการลงทุนใหม่ทางเอ็กโกก็คงไม่ลงทุนเพิ่ม


ส่วนโรงไฟฟ้าใหม่ตามแผนพีดีพีนั้น ต้องรอดูว่ากระทรวงพลังงานจะกำหนดเชื้อเพลิงอย่างไร หรือรูปแบบใด โดยในส่วนของภาคใต้ ทางเอ็กโกเสนอว่าพร้อมสร้างโรงไฟฟ้าขนอมโรงใหม่ในพื้นที่เดิม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งกำลังผลิตแล้วแต่เทคโนโลยีและความต้องการไฟฟ้า ขนาดสายส่งรองรับ ตั้งแต่ 700 -1,000 MW โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง สร้างความมั่นคงแก่ภาคใต้ ขณะเดียวกันหากรัฐต้องการกระจายเชื้อเพลิงใช้ถ่านหิน ก็มีพื้นที่โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี จังหวัดระยอง รองรับการก่อสร้างโรงใหม่อีก 1,000 MW

นายจักษ์กริช ยังกล่าวด้วยว่า ผลประกอบการที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะดีขึ้น หากบาทแข็งค่ากว่าไตรมาส2/2561 ที่ปิดอ่อนค่าไปถึง 33.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้บริษัทขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนถึง 5,300 ล้านบาท จากที่ไตรมาส 1/2561 ปิดที่ 31.40 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ บริษัทมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 3,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นเช่นนี้เพราะมีหนี้เงินกู้สกุลดอลลาร์ 1,300 ล้านดอลลาร์ จากหนี้รวม 43,000 ล้านบาท 

สำหรับผลดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก 2561 เอ็กโกมีกำไรสุทธิ 17,807 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 11,313 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 174 จากการขายสินทรัพย์ออกไปทั้งหุ้นอีสท์วอเตอร์ โรงไฟฟ้าจีเดคในไทยและมาซินลอค ประเทศฟิลิปปินส์ โดยบริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 36,000 ล้านบาท ดังนั้น ขณะนี้กำลังเจรจาเพื่อให้ได้กำลังผลิตไฟฟ้าทดแทนสินทรัพย์ที่ขายไป คาดจะเจรจาเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2-3 โครงการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งกำลังผลิตจะไม่ต่ำกว่าที่ขายกิจการไปที่ 317 MW


ส่วนพื้นที่โรงไฟฟ้าระยองที่ไม่ได้เดินเครื่องแล้วนั้น มีพื้นที่ประมาณ  500 ไร่ ในขณะนี้กำลังเจรจากับพันธมิตรเพื่อพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมรองรับการลงทุนในโครงการอีอีซี ขณะเดียวกันสนใจโครงการลงทุนเทคโนโลยีใหม่ Smart City ,Smart Grid , การบริหารพลังงานรวมทั้งธุรกิจค้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี

ปัจจุบันเอ็กโกกรุ๊ปมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้า “ไซยะบุรี” และ “น้ำเทิน 1” สปป.ลาว และโรงไฟฟ้า “ซานบัวนาเวนทูรา” ประเทศฟิลิปปินส์ มีความก้าวหน้าตามแผนงาน โดยคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จและทยอยเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ปี 2562 และ 2565 คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 544 MW

เอ็กโกกรุ๊ปมีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ณ 30 มิถุนายน 2561 จำนวน 26 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้น  4,260 MW  ใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ได้เบาะแสเพิ่ม โจร 30 วิ ล็อกเป้าชิงทอง 1.6 ล้าน

เหตุคนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนปลอม ชิงทองมูลค่า 1.6 ล้าน กลางห้างอุดรฯ ชุดสืบยังเร่งแกะรอยล่า ยืนยันได้วงจรปิดเส้นทางมาชิงทองและเส้นทางหนีแล้ว มั่นใจคนร้ายล็อกเป้ามาชิงทองร้านนี้ร้านเดียว

สส.ปชน.โต้ “ทักษิณ” ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก

สส.เหนือ พรรคประชาชน โต้ “ทักษิณ” หลังซัด “เท้ง” สึ่งตึง “พุธิตา” ย้อน ตลกดี เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ปราศรัยหยาบคาย-ดูถูก ลั่นดิสเครดิตแบบนี้ไม่ได้อะไร ไล่ไปทำหน้าที่รัฐบาลให้ดี เห็นมากี่ทีขอ สส.คืน

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อมนครศรีฯ เขต 8

“ชัยธวัช” น้อมรับ ปชน.พ่ายเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8 หลัง “กล้าธรรม” ชิงประกาศชัยชนะ ผิดหวังภาคใต้ซื้อเสียงโจ๋งครึ่ม หวังประชาชนยังเทใจให้ชนะเลือกตั้งทั่วไป

ข่าวแนะนำ

รื้อซากตึกสตง.

รื้อซาก สตง.ถึงชั้นใต้ดินแล้วบางส่วน-พบผู้สูญหายอีก 1 ร่าง

เจ้าหน้าที่ลดความสูงซากตึก สตง. ถึงชั้น 1 แล้ว และลงไปถึงชั้นใต้ดินได้บางส่วน โดยวันนี้จะเสริมรถหัวเจาะกระแทกเข้ามาเพิ่ม ขณะที่เมื่อคืนพบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง ยืนยันจะทำงานให้เร็วที่สุด เพื่อคืนร่างผู้สูญหายทั้งหมดให้ญาติ

นายกฯ ขันนอตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ

นายกฯ ขันน็อตกระทรวง-หน่วยงาน เร่งเดินโครงการบริหารจัดการน้ำ ตั้งคำถามเบิกงบฯ แก้น้ำท่วมตั้งแต่ปี 63 สร้างคืบแค่ 5% บอกน้อยมาก พร้อมแจ้ง ครม.รับทราบแผนถก JCR ไทย-กัมพูชา ก.ค.นี้ หวังสางปมคอลเซ็นเตอร์-ยาเสพติด เล็งจับมืออาเซียนดึงจุดแข็งแต่ละประเทศ เจรจากำแพงภาษีสหรัฐ

เรียกสอบวิศวกรตึกถล่ม

เริ่มแล้ว! ดีเอสไอ เรียกสอบชุดแรก 10 วิศวกร ตัวแทนอิตาเลียนไทย

เริ่มแล้ว! พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ เรียก 10 วิศวกร และตัวแทนจาก บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ เข้าให้ปากคำชุดแรก คดีตึก สตง.หลังใหม่ถล่ม

people at Saint Peter's Square

ประชุมลับเลือกโป๊ปองค์ใหม่ 7 พ.ค.

สำนักวาติกัน 29 เม.ย.- ที่ประชุมพระคาร์ดินัลกำหนดให้วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) เมื่อวานนี้ พระคาร์ดินัลจากทั่วโลกประชุมกันที่โบสถ์น้อยซิสทีน ในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยคริสต์ทศวรรษที่ 16 ภายในนครรัฐวาติกัน โดยปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม เป็นการประชุมครั้งแรกหลังพิธีฝังพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อหารือเรื่องกำหนดวันประชุมลับในการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่ หรือที่เรียกว่า คอนเคลฟ (conclave) ที่ประชุมตกลงให้วันที่ 7 พฤษภาคมเป็นวันเริ่มต้นการประชุมลับเพื่อเลือกโป๊ปองค์ต่อไป ตามปกติแล้ว คอนเคลฟจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านพ้นวันสิ้นพระชนม์ 15-20 วัน จึงจะไม่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พ.ค. สำหรับคอนเคลฟ 2 ครั้งที่ผ่านมา คือ ปี 2548 และ 2556 กินเวลา 2 วัน ส่วนค่าเฉลี่ยของคอนเคลฟ 10 ครั้งหลังสุดคือ 3 วัน โดยในคอนเคลฟครั้งนี้ จะมีในพระคาร์ดินัล 135 รูปที่มีอายุต่ำกว่า 80 ปี จะได้ร่วมประชุมลับและลงคะแนน […]