“ราเมศ” โต้ “เรืองไกร” อย่าบิดเบือนข้อมูลเรื่องจำนำข้าว

พรรคประชาธิปัตย์ 23 ส.ค.-“ราเมศ” โต้ “เรืองไกร” อย่าบิดเบือนข้อมูลเรื่องจำนำข้าว ยกคำพิพากษามายืนยันว่ามีความเสียหายชัดเจน


นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกและคณะทำงานด้านกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ออกมาบิดเบือนคดีจำนำข้าวว่าไม่ได้เกิดความเสียหายจริง กรณีนี้ต้องบอกว่า ข้อมูลที่นายเรืองไกรออกมากล่าวอ้างนั้น เป็นการบิดเบือนคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งสิ้น เป็นกระบวนการวิธีเดินเกมทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเพื่อทำลายอำนาจตุลาการ ทำลายความน่าเชื่อถือของคำพิพากษาศาล เพื่อหวังเพียงผลประโยชน์ทางการเมืองให้คนเข้าใจผิดว่าอำนาจตุลาการไปกลั่นแกล้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ความจริงตามคำพิพากษาได้ระบุไว้ชัดถึงตัวเลขของผลการขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวที่ทุจริตทั้งโครงการ ปิดบัญชีครั้งที่ 1 ขาดทุน 32,301 ล้านบาท ปิดบัญชีครั้งที่ 2 ขาดทุน 220,968 ล้านบาท ปิดบัญชีครั้งที่ 3 ขาดทุน 332,372 ล้านบาท รวม 585,641 ล้านบาท จึงถือเป็นการบิดเบือน

“นี่คือสิ่งที่คุณเรืองไกรได้พยายามบิดเบือนว่าเมื่อไม่มีความเสียหายแล้วศาลพิพากษาได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ศาลได้ระบุไว้ชัดในหน้าที่ 60 ว่าการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในแต่ละขั้นตอนการดำเนินการเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลของคุณยิ่งลักษณ์ ก็ยังเกิดปัญหาการทุจริตในขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และกระทบต่องบประมาณแผ่นดินเป็นจำนวนมาก ศาลจึงพิพากษาว่าคุณยิ่งลักษณ์กระทำความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดความเสียหายต่องบประมาณแผ่นดิน เพิกเฉยละเลย ก็ต้องถือว่าเป็นการจงใจ กระทำการละเมิด เป็นเหตุให้กระทรวงการคลังเสียหาย คือเป็นเหตุให้ประเทศชาติเสียหาย กระทรวงการคลังจึงออกคำสั่ง ที่ 1351/2559 ให้ใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท คุณยิ่งลักษณ์ก็เห็นว่าไม่ถูกต้อง ก็ฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ก็ไปว่ากันในศาล มีสิทธิในการต่อสู้คดีหมด แต่อย่านำเหตุผลทางการเมืองมาทำลายกระบวนการยุติธรรม ทำลายอำนาจตุลาการ” นายราเมศ กล่าว


นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ในคำพิพากษายังระบุว่าโครงการระบายข้าวถุง ก็มีการคบคิดกันเพื่อกระทำการทุจริต คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ควรแจ้งประชาชนทราบด้วยว่าคดีไปถึงไหนแล้ว เรื่องนี้ก็น่าสนใจ เพราะศาลได้มีคำพิพากษาชัดเจนแล้วว่ามีการทุจริต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน