กลุ่มลูกหนี้นายทุนเงินกู้รายใหญ่ ร้องขอความเป็นธรรม

ขอนแก่น 21 ส.ค. – กลุ่มลูกหนี้นายทุนเงินกู้รายใหญ่ในภาคอีสาน ร้องขอความเป็นธรรมจากตำรวจภูธรภาค 4 ให้ช่วยเหลือทางคดี หลังถูกเจ้าหนี้ทยอยฟ้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาดอย่างไม่เป็นธรรมมานานกว่า 10 ปี มูลหนี้เบื้องต้นกว่า 100 ล้านบาท



มาตรการคืนโฉนดที่ดินและคืนความสุขให้กับประชาชน ของตำรวจภูธรภาค 4 ซึ่งยึดโฉนดจากนายทุนเงินกู้นอกระบบมาคืนให้ลูกหนี้ชาวขอนแก่น และอุดรธานี กว่า 1,000 ฉบับ ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา จุดประกายให้ลูกหนี้นอกระบบต่างมีความหวัง ในจำนวนนี้คือกลุ่มลูกหนี้ของมะลิทอง นายทุนเงินกู้ชาวจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีลูกหนี้กระจายอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานหลายจังหวัด 


วันนี้ลูกหนี้ในจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม และชัยภูมิ เข้าขอความเป็นธรรมกับตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อให้ช่วยบรรเทาความเสียหาย และฟ้องติดตามเอาทรัพย์สินคืน หลังถูกนายทุนทยอยฟ้องยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ราวปี 2550 เป็นต้นมา


ยายโสดา ถาหล้าอินทร์ ชาวอำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น วัย 64 ปี กู้เงิน 195,000 บาท ให้ลูกชายไปทำงานไต้หวันปี 2543 แต่นายทุนเขียนในสัญญา 280,000 บาท ตลอดเวลา 2 ปี ส่งเงินเข้าบัญชีที่นายทุนยึดบัตรเอทีเอ็มไว้ 340,000 บาท กลับบ้านเกิด นายทุนอ้างยังเหลือมูลหนี้กว่า 400,000 บาท ยายโสดาต้องขายนานำเงิน 100,000 บาท มาใช้หนี้บางส่วน คดียายโสดาน่าจะจบตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว เมื่อยอมรับสภาพหนี้ในขั้นตอนไกล่เกลี่ยของศาลจังหวัดภูเขียว 445,000 บาท เงินจำนวนนี้คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้โอนเข้าบัญชี ธกส.เรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหนี้ไม่ยอมรับ กลับเดินหน้าฟ้องยึดโฉนดที่เป็นหลักประกัน 3 แปลง เนื้อที่กว่า 10 ไร่ ยายโสดาต้องกู้เงินอีก 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 5 เพื่อให้บังคับคดีจังหวัดชัยภูมิระงับการขาย 3 เดือน ซึ่งขณะนี้ล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว 

ข้าราชการบำนาญ อดีตเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ติดตามให้ความช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้กว่า 10 ปี บอกว่า ปัญหาสำคัญอยู่ที่ชาวบ้านยอมเซ็นรับสภาพหนี้ตามคำแนะนำของทนายความ ศาลจึงพิพากษาตามยอม โดยไม่ได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ทั้งที่หลายคนมีหลักฐานการโอนเงินใช้หนี้ชัดเจน

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยภายใน 2 วันนี้จะไปให้คำแนะนำชาวบ้านที่อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนพฤติการณ์แห่งคดีจะเปิดช่องให้ฟ้องกลับได้หรือไม่ ต้องพิจารณาเป็นรายคดี

นายทุนเงินกู้รายนี้ฟ้องลูกหนี้เกือบ 500 คดี ทุนทรัพย์กว่า 100 ล้านบาท รายใดที่เพลี่ยงพล้ำจึงจะลดหนี้ให้ หรือถึงขั้นยอมยกหนี้เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง โดยมีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายเป็นที่ปรึกษา ซึ่งปลัดกระทรวงยุติธรรมให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันตรวจสอบเพื่อเรียกตัวไปหารือเป็นการเฉพาะ ในแวดวงนักกฎหมายมีการถกเถียงกันว่า เมื่อมีคำพิพากษารับรองแล้วยังจะถือว่าเป็นหนี้นอกระบบอยู่หรือไม่ ซึ่งจะทำให้การเอาผิดทางกฎหมายยากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันที่ผ่านมาดีเอสไอได้เรียกนายทุนเงินกู้และอดีตสามีไปรับทราบข้อกล่าวหา ฐานหลีกเลี่ยงภาษีกว่า 400 ล้านบาท หลังได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากโดยไม่เสียค่าตอบแทน . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง