สมาคมนักข่าวฯ 4 ส.ค.- จิตแพทย์ชี้กรณีหมูป่าติดถ้ำหลวง ได้บทเรียนสำคัญของพลังกลุ่มที่ทำให้ก้าวผ่านอุปสรรคแต่ต้องเฝ้าระวังภาวะจิตใจเข้มข้นต่อเนื่องเป็นปี เพราะพายุข้อมูลอาจบั่นทอนจิตใจ
5 องค์กรวิชาชีพสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรคและกรมสุขภาพจิต จัดเสวนา ถอดบทเรียนสุขภาพจากการลงพื้นที่ทำข่าวกรณีถ้ำหลวง โดย มี นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดี กรมสุขภาพจิต, นายแพทย์โรม บัวทอง สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค, พลตรีนายแพทย์ วุฒิไชย อิศระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพลอากาศตรี นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ร่วมเป็นวิทยากรถอดบทเรียนสุขภาพจากการลงพื้นที่ทำข่าวกรณีถ้ำหลวง
นายแพทย์สมัย ศิริทองถาวร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่าเรื่องของสภาพจิตใจของทีมหมูป่า ได้มีการติดตามเข้มข้น โดยจะให้ทำอะไรให้เป็นกลุ่มอย่างสม่ำเสมอ ไม่แยกกลุ่ม เช่น บวชเป็นกลุ่ม และติดตามเข้มข้น 3 เดือนแรก 6 เดือน หรือ1 ปี และค่อยผ่อนลง จากนั้นจะค่อยๆถอดบทเรียนจากเด็กกลุ่มนี้ โดยเฉพาะ วิธีแปลงกระบวนการกลุ่ม ความเหนียวแน่น ความรักสามัคคีกันในกลุ่มแปลงอย่างไรให้เป็นพลัง เพราะภาพแรกที่ปรากฏออกมา จะเห็นความน่ารักของเด็กๆ ความอ่อนน้อม การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สิ่งเหล่านี้ต้องถอดบทเรียนเพื่อเป็นประโยชน์กับเด็กคนอื่นๆในสังคม
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวด้วย ในการนำเสนอข่าว และการติดตามข่าวการช่วยเหลือทีมหมูป่าของสื่อมวลชน เป็นเรื่องดี เพราะทำให้ความช่วยเหลือหลั่งไหลมาจากทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันก็มีผลกระทบด้านจิตใจกับผู้ที่ติดตามข่าวหรือเสพสื่อมากเกินไป เช่น กรณี เด็กอายุ 3 ขวบ มีคนถ่ายคลิปร้องไห้ว่า กลัวถ้ำ เป็นต้น แม้แต่ผู้ใหญ่เอง ที่เสพสื่อมากเกินไปจนเครียด นอนไม่หลับ แม้เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว แต่อาจเกิดอาการ บาดแผลทางจิตใจ นอนไม่หลับ จิตใจหงาดผวา จนอาจนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้ รวมถึงสื่อเองด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่าใครประสบปัญหาทางสภาพจิตใจ ที่น่าห่วงมากที่สุด คือกลุ่มหมูป่า เพราะเมื่อออกมาจากถ้ำ เด็กๆจะได้รับข้อมูล หรือพายุข้อมูล ที่อาจทำให้รู้สึกผิด บั่นทอนจิตใจ ซึ่งกระบวนการดูแลในระยะยาวคือเกื้อหนุนกลุ่มเขาให้คงอยู่
พลตรีนายแพทย์ วุฒิไชย อิศระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช(แพทย์ใหญ่กองทัพภาคที่3) กล่าวว่า ภาพแรกที่เห็นเด็กออกมา จะเห็นว่า ไม่เห็นเด็กร้องไห้ หรือตกใจ ตนได้เข้าไปคุยกับโค้ชและเด็กๆ หลังจากมีสภาพจิตใจแข็งแรง บอกว่า3-4 วันแรก อาจร้องไห้ แต่ถึงวันที่9 มีแต่พลังบวก ช่วยกันวางแผนหาทางออกจาถ้ำ ช่วงที่อยู่ภายในถ้ำมีการแบ่งปันไฟฉาย มีนาฬิกา1เรือน ไว้บอกเวลา เช้า -ค่ำ ถึงเวลานอน อุณภูมิในถ้ำ 20-23 องศาฯ ในน้ำ 15 องศา หนาวมาก เด็กๆใช้วิธี นอนกอดกัน สลับหัวท้าย เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เห็นว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่ธรรมดา แต่จากนี้ไป อย่าพยายามรื้อฟื้นถึงวิธีการนำตัวพวกเขาออกมาจากถ้ำ และได้บอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นประสบการณ์ที่ทุกคนทั่วโลกได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน ทั้งเรื่องการช่วยเหลือ การเอาตัวรอดในถ้ำ ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีใครได้เจอมาก่อน
นายแพทย์โรม บัวทอง สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า การอยู่ในถ้ำเป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้ติดเชื้อได้ง่าย มีทั้ง เชื้อจาก สัตว์ฟันแทะต่างๆ เช่น หนู เชื้อโปโตซัว จากริ้นฝอยทราย ซึ่งไม่ได้แสดงอาการเฉียบพลันแต่จะค่อยๆแสดงอาการ ในระยะ3เดือน6 เดือน และเชื้อแบคทีเรียที่มาจาก ดิน น้ำ โคลน ซึ่งเมื่ออกมาจากพื้นที่ ทุกคนต้องตรวจร่างกายเพื่อเฝ้าระวังโรค.-สำนักข่าวไทย