สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี 3 ส.ค.61- วิ่งระยะไกลในเอเชียนเกมส์ แม้ว่าจะลุ้นเหรียญยาก แต่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการวิ่งไทยที่ได้นักวิ่งหน้าใหม่มาผนึกกำลังกับลูกครึ่งไทยในต่างแดน
หากมองถึงความหวังในการลุ้นเหรียญรางวัลในกีฬาเอเชียนเกมส์ของนักวิ่งปอดเหล็กทีมชาติไทยตั้งแต่อดีตที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นงานยากเมื่อต้องดวลกับชาติมหาอำนาจในเอเชียทั้งญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และจีน รวมถึงชาติในแถบตะวันออกกลาง ที่ปัจจุบันได้โอนสัญชาตินักวิ่งจากทวีปแอฟริกาลงมาแย่งชิงเหรียญกับหลายชาติ ทำให้สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย พยายามเฟ้นหานักวิ่งดาวรุ่งทั้งในและต่างประเทศ จนในที่สุดได้ 6 นักวิ่งปอดเหล็กที่จะสู้ศึกอินโดนีเซียเกมส์ 2018 โดยมาราธอนชาย สัญชัย นามเขต ที่ขยับขึ้นมาจากวิ่ง 10,000 เมตร กับ โทนี่ อาทิตย์ เพน นักวิ่งลูกครึ่งไทยนิวซีแลนด์ และมาราธอนหญิง เจน วงษ์วรโชติ ปอดเหล็กสาวที่เคยผ่านสังเวียน โอลิมปิกเกมส์ 2016 กับ น้องปลา ลินดา จันทะชิด ดาวรุ่งดวงใหม่ของวิ่งมาราธอนไทย ขณะที่วิ่ง 10,000 เมตร บุญถึง ศรีสังข์ ปอดเหล็กจอมเก๋าวัย 37 ปีที่เปิดทางให้กับรุ่นน้องอย่างสัญชัยได้แจ้งเกิด จะผนึกกำลังกับ คีริน ตันติเวทย์ ที่กำลังซุ่มฝึกซ้อมอยู่ที่สหรัฐ ทั้งระยะ 5,000 เมตร และ 10,000 เมตร
แม้ว่านักวิ่งทุกคนจะยอมรับว่าลุ้นเหรียญได้ยาก แต่การได้เห็นนักวิ่งรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ในมหกรรมกีฬาใหญ่ของทวีปแบบนี้ น่าจะเป็นทิศทางที่ดีของวงการวิ่งระยะไกลไทย แม้ว่าเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ จะไม่มี ปีเตอร์ มูตู ตีตี้ โค้ชชาวเคนยา ที่หมดสัญญา แต่นักวิ่งทุกคนพร้อมที่จะประกาศศักดาให้ทุกชาติได้รับรู้ว่า ข้าคือนักกีฬาทีมชาติไทย
จากสถิติเอเชียนเกมส์ 2014 หากนักวิ่งไทยหวังลุ้นถึงเหรียญ มาราธอนชาย ต้องทำเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 12 นาที มาราธอนหญิง ต้องทำเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 25 นาที วิ่ง 10,000 เมตรชาย ต้องทำเวลาประมาณ 28 นาที และ 5,000 เมตรชาย ต้องทำเวลา 13 นาที 30 วินาที ซึ่งแม้ดูจากสถิติจะยังห่างไกล แต่หากทุกคนสู้ด้วยใจ อนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นเหรียญของนักกีฬาไทย ในวิ่งระยะไกลเอเชียนเกมส์.-สำนักข่าวไทย