ลำดับเหตุการณ์ “น้องหญิง” เสียชีวิตปริศนา

กทม. 31 ก.ค.-คดีน้องหญิงตกรถเทรลเลอร์เสียชีวิตปริศนาที่หลายฝ่ายยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และตำรวจเดินหน้าคลี่ปม เราไปย้อนลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


คดีนี้เริ่มเป็นที่จับตาเมื่อ 27 กรกฎาคม ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Baifern Pns โพสต์เล่าเรื่องราวของนางสาวนรีกานต์ ยาวิราช หรือน้องหญิง ว่าไปเที่ยวสถานบันเทิงในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กับเพื่อนสาวชื่อเป็ด เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม แต่กลับดับปริศนา กะโหลกศีรษะแตก สมองบวม โดย “อ๊อฟ” ผู้ชายที่ขับรถเทรลเลอร์มาส่งอ้างน้องหญิงกระโดดลงรถโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ผลชันสูตรชี้น้องหญิงถูกของแข็งไม่มีคมตีท้ายทอย ทำให้ญาติติดใจปมเสียชีวิต

28 กรกฎาคม นายสุบิน ยาวิราช บิดาน้องหญิง ลั่นขอเก็บศพลูกสาวไว้จนกว่าจะรู้ความจริงว่าถูกฆาตกรรมอำพราง หรือเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่ตำรวจบางปะอินให้นายสุรพล ดาราคำ หรืออ๊อฟ ไปชี้จุดเกิดเหตุ แต่อ๊อฟยังยืนยันอาสาขับรถมาส่งน้องหญิง เพราะเห็นเป็นทางผ่าน โดยน้องหญิงขึ้นรถมาแล้วนั่งร้องไห้ตลอดทาง ถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ตอบ ก่อนกระโดดลงจากรถไปเอง มั่นใจมีพยานเป็นคนขับรถกระบะที่ช่วยพาน้องหญิงมาส่งโรงพยาบาล


29 กรกฎาคม ตำรวจลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์ โดยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำบิดาและอา ร่วมสังเกตการณ์ เชื่อน้องหญิงถูกฆาตกรรม เพราะมีคลิปน้องหญิงถูกอ๊อฟลวนลามในสถานบันเทิง แชทขอความช่วยเหลือ รวมถึงติดใจที่ไม่พบแผลถลอกตามร่างกายน้องหญิง ทั้งที่กระโดดจากรถที่สูงถึงเมตรครึ่ง  

เย็นวันเดียวกัน นางสาวศิรินาถ รอบรัมย์ หรือเป็ด เพื่อนสาวที่ชวนน้องหญิงไปเที่ยว เข้าให้ปากคำ ยืนยันไม่ได้เป็นนกต่อ ติดธุระทำให้ต้องส่งเพื่อนขึ้นรถไปกับอ๊อฟ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ แจ้งข้อหาสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานกักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนอ๊อฟถูกแจ้งข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

30 กรกฎาคม ครอบครัวน้องหญิง พร้อมทนาย นำโลงศพน้องหญิงร้องขอความเป็นธรรมตำรวจกองปราบฯ ระบุตำรวจ สภ.บางปะอิน ไม่เคยสอบปากคำญาติ บอกคดีนี้เป็นเพียงคดีอุบัติเหตุ รวมถึงขอให้ดำเนินคดีเป็ด อ๊อฟ และท็อป ซึ่งเป็นแฟนของเป็ด ข้อหาร่วมกันทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยฆาตกรรมอำพราง เพราะผลชันสูตรชี้ชัดน้องหญิงกะโหลกศีรษะแตกจากการถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม โดยเฉพาะที่ท้ายทอยด้านขวา


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง 3 นายตำรวจ สภ.บางปะอิน และ 4 นายตำรวจ สภ.พระอินทร์ราชา ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรปทุมธานี สั่งย้าย 2 นายตำรวจ สภ.เมืองปทุมธานี และ 1 นายตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และให้ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ