นักวิชาการ ห่วง เขื่อนขนาดกลาง และเล็กของไทย ซ้ำรอยลาว

ปทุมวัน 31ก.ค.–นักวิชาการห่วงเขื่อนขนาดกลางและเล็กทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การดูแลของ อบต.อาจไม่มีประสิทธิภาพ อาจเกิดเขื่อนเเตก อย่าง สปป.ลาว กรณีของเขื่อนเซเปียน คาดสาเหตุจากการทรุดตัวของเขื่อนและระบบเตือนภัยไม่ดีพอ ส่วนไทยได้รับผลกระทบด้านกระเเสไฟฟ้าน้อยมาก


จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดเวทีจุฬาฯ เสวนา ครั้งที่ 15 เรื่อง “เขื่อนแตก เรื่องของลาวกับเรื่องของเรา” เพื่อถอดบทเรียนเเละนำเสนอองค์ความรู้หลังเกิดกรณีเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อยที่แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างเเตก ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิตเเละผู้ประสบภัยเป็นจำนวนมาก ซึ่งทางการลาวคาดว่าสาเหตุที่ทำให้เขื่อนเเตกนั้นเกิดจากความบกพร่องระหว่างการก่อสร้าง


นายฐิรวัตร บุญญะฐี  ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิยาลัย กล่าวว่า เขื่อนเเบ่งออกเป็น 4 ประเภทได้แก่ เขื่อนคอนกรีตใช้น้ำหนักตัวเองต้านเเรงดันน้ำ ส่วนใหญ่เป็นพื้นหินเเข็งเช่น เขื่อนเเม่มาว ,เขื่อนคอนกรีตที่มีความหนาแน่น , เขื่อนคอนกรีตบาง เช่น เขื่อนภูมิพลและเขื่อนดิน  ซึ่งน้ำหนักเบากว่าคอนกรีต เช่น เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนเเก่งกระจาน โดยเเต่ละเขื่อนสร้างตามสภาพเเวดล้อมของพื้นที่นั้นๆ โดยเขื่อนในลาว ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบเขื่อนดิน กรณีเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อยที่เเตก เมื่อมองสภาพเเวดล้อมพบว่าบริเวณดังกล่าวมี  2 เขื่อนใหญ่ คือเขื่อนเซเปียนเเละเขื่อนเซน้ำน้อย เเละมีเขื่อนเล็ก ซึ่งเป็นเขื่อนปิดช่องเขา 5 เขื่อน ซึ่งเขื่อนที่เเตกครั้งนี้เป็น 1ใน 5 เขื่อนเล็ก 


โดยสาเหตุที่เเตกเบื้องต้นคาดว่า มีการวางระบบระบายช่องทางน้ำล้นไม่ดีพอ ขณะที่เขื่อนไม่มีความเเข็งเเรงมากพอกับการรับน้ำหนักของน้ำอาจจะ ประมาทในการประเมินวัสดุที่นำมาสร้างเขื่อน เช่น ดินไม่มีความหนาเเน่น การบดอัดดินไม่เพียงพอ  ทำให้ดินยุบตัวระหว่างการเติมน้ำ ประเมินการไหลซึมผ่านตัวเขื่อนเเละใต้เขื่อนไม่ถูกต้องหรือออกเเบบไม่เหมาะสม การฉีดอัดน้ำปูนให้ชั้นดินไม่เพียงพอ ส่วนปัจจัยอื่นๆเช่นความไม่เเน่นอนของธรรมชาติ   

ขณะเดียวกันอาจมีระบบการจัดการความเสี่ยงที่ไม่ดีพอ เนื่องจากมีข้อมูลว่าบริษัทเกาหลี ซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้างเขื่อนได้รายงานต่อสภาของเกาหลีว่าเขื่อนดังกล่าวอยู่ระหว่างการทดลองเติมน้ำ หลังสร้างเสร็จก่อนกำหนด 5 เดือนในเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยก่อนเขื่อนจะเเตก 4วัน  เกิดดินทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งเเต่ขนาด 11เซนติเมตรจนกว้างขึ้นเป็น 1เมตร จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่ามีการรู้ตัวก่อน เเต่มีการเเจ้งเตือนเพียง 1 วันก่อนที่เขื่อนจะ เเตกเท่านั้น

ด้านนายอนุรักษ์ ศรีอริยวัฒน์  หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า หลายฝ่ายอาจจะมองว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเขื่อนเเตกนั้น คือการเปลี่ยนเเปลงสภาพอากาศโลก เเต่ตนมองว่าหากเป็นสาเหตุดังกล่าวจะทำให้หลายเขื่อนเเตกไปแล้ว สาเหตุหลักที่ทำให้เขื่อนเล็กเเตกในครั้งนี้เกิดจากน้ำล้นตัวสันเขื่อน ตัวเขื่อนทรุดตัวลง

เนื่องจากฐานรากไม่ดีเเละเกิดการสไลด์ตัวของชั้นดิน ส่วนข้อมูลที่มีความผิดพลาดว่าจากเขื่อนเเตก ทำให้มีน้ำบ่าลงมา 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เเต่ความจริงเขื่อนมีความจุเก็บกักได้เเค่ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร  จึงคาดว่าน่าจะเป็นน้ำป่าประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น

ขณะที่หากเทียบเขื่อนเซเปียนเซน้ำน้อยในไทยถือเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ ซึ่งในไทยมีเขื่อนขนาดใหญ่ประมาณ 34 เขื่อน ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูเเลเขื่อนทั้งหมดมากขึ้น ซึ่งตนมองว่าหากจะเกิดเขื่อนเเตกในไทย ความกังวลน่าจะเป็นเขื่อนขนาดกลางเเละขนาดเล็กที่มีกว่า 800 เขื่อนและ8,000 เขื่อนตามลำดับเพราะมองว่ามีการดูเเลน้อย ที่ผ่านมามีการรายงานพบการรั่วซึมของน้ำมากกว่าปกติ ขณะเดียวกันเขื่อนขนาดเล็กซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)จากการโอนย้ายของกรมชลประทาน จนตั้งข้อสังเกตว่า อบต.จะมีศักยภาพการดูเเลเขื่อนได้หรือไม่หากเขื่อนเเตกขึ้นมา 

ขณะที่หลังเกิดเหตุการณ์นี้หลายคนอาจให้หยุดสร้างเขื่อนเพื่อตัดต้นตอปัญหา เเต่ตนมองว่า อาจหยุดไม่ได้ เพราะเขื่อนในไทยส่วนใหญ่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์กักน้ำไว้ใช้ในช่วงน้ำเเล้ง ส่วนเรื่องป้องกันน้ำท่วมได้เเค่ร้อยละ 10 เท่านั้น เเต่ถึงอย่างไรก็ต้องรองรับสถานการณ์ในอนาคตที่เปลี่ยนเเปลงไป สุดท้ายบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ฝากสำนักงานทรัพยากรน้ำเเห่งชาติ(สทนช.)เเละหน่วยงานภาครัฐว่าควรมีข้อมูลระยะยาว คาดการณ์สภาพอากาศใน 30 ปีข้างหน้าครอบคลุมทั้งประเทศเเละเผยเเพร่ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาหาข้อมูลได้ยากมาก

ส่วนนายกุลยศ อุดมวงศ์เสรี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เหตุการณ์เขื่อนเซเปียนเซน้ำน้อยเเตกในลาว ส่งผลกระทบด้านพลังงานของไทยน้อยมาก ที่เดิมทีจะผลิตกำลัง ไฟฟ้ากว่า 3,931 เมกะวัตต์เเละส่งให้ไทยในเดือนก.พ.ปี 2562 เนื่องจากไทยมีการนำเข้ากระเเสไฟฟ้าจากลาว โดยรวมทั้งหมดไม่มากประมาณ 4,000 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ไทยยังมีสัดส่วนการสำรองไฟฟ้าสูงจากอีกหลายประเทศ เเต่หากสถานการณ์จะน่าห่วงคงเป็นหลังปี 2567 เนื่องจากช่วงนั้นมีหลายประเทศมีเเผนสร้างโรงงานไฟฟ้าน้อยมาก.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งเร่งออกโฉนดให้ชาวบ้านหนองจาน

สรแก้ว 25 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งที่ดินจังหวัดเร่งดำเนินการออกเอกสารสิทธิให้ชาวบ้านหนองจานโดยเร็ว พร้อมส่งทีมสำรวจ เร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดนให้แล้วเสร็จ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ส.ป.ก. ชี้แจงกรณีปัญหาของที่ดินบ้านหนองจาน พร้อมให้ประชาชนแสดงการยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดิน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนดให้กับชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจาน และบ้านกุดผือ ที่มีที่ดินอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณหลักเขตแดนที่ 46-47 เพื่อดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้โดยเร็ว โดยมีชาวบ้านนำเอกสารสิทธิ น.ส.2 สค.1 น.ส.3 มายื่นให้เจ้าหน้าที่เข้าสู่ระบบการคัดกรองเพื่อออกโฉนดที่ดินตามนโยบายเร่งด่วน ซึ่งจังหวัดจะแบ่งทีมสำรวจลงพื้นที่เป็น 3 ชุด เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินตามแนวชายแดน ตั้งแต่พื้นที่อำเภออรัญประเทศ อำเภอโคกสูง และอำเภอตาพระยา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอันมาก.- สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอกประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดนไม่เคยจบง่าย บางประเทศใช้เวลาเป็นร้อยปี อย่ากังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องรั้วลวดหนามอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่พูดคุยกันมา […]