ลาดพร้าว 21 ก.ย.-รมช.ศึกษาฯร่วมสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสร้างมาตรฐานวัดความรู้ภาษาอังกฤษ อิงจากมาตรฐานสากล CEFR เพื่อประเมินนักเรียนเเละครู
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานแถลงข่าวการยกระดับมาตรฐานความสามารถภาษา อังกฤษเพื่อวิชาการและวิชาชีพ โดยความร่วมมือของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันภาษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเเละมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ที่ร่วมออกเเบบเเละกำหนดมาตรฐานความสามารถด้านภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการวัดระดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร,เป็นแนวทางในการปรับปรุงหลักสูตรและการประเมินผลของผู้เรียนในทุกระดับ เเละใช้ประเมินความสามารถในการสอนของครูภาษาอังกฤษชาวต่างชาติ
รมช.ศึกษาฯ กล่าวว่า มาตรฐานความสามารถภาษาอังกฤษถือเป็นกลไกการยกระดับคุณภาพภาษาอังกฤษของไทยให้ดีขึ้น โดยอ้างอิงมาตรฐาน Common European Framework of Reference for Languages หรือ CEFR ของยุโรปที่ทั่วโลกใช้มาปรับให้เข้ากับบริบทของไทย เช่น ระดับความยากง่ายของคำศัพท์ จึงใช้ชื่อว่าCEFRT เพื่อพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพเทียบเท่าสากล หลังองค์กรต่างชาติประเมินการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทยอยู่ในระดับต่ำ ซึ่ง ศธ.ตั้งเป้าภายใน 5 ปีจะต้องฝึกอบรมครูภาษา อังกฤษให้ครบทุกคน สนับสนุนชั่วโมงเรียนภาษาอังกฤษ โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพิ่มชั่วโมงเรียนสำหรับเด็กประถมศึกษาจากเดิมสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมงเป็น 5 ชั่วโมง ให้เด็กได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษ ภายใน 1 ปีต้องเรียนรู้คำศัพท์ 1,000 คำ
หลังจากนี้สำนักวิชาการของกระทรวงศึกษาฯร่วมกับสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะไปวิจัยเเละตั้งคณะกรรมการเพื่อนำมาตรฐานนี้ไปปรับหลักสูตรการเรียนการสอนของเด็กในทุกระดับชั้น โดยจะเริ่มใช้ในช่วงชั้นประถมศึกษาตอนต้นคือป.1-ป.3
ส่วนการทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษของครูจะปรับการออกข้อสอบโดยอิงมาตรฐานดังกล่าว ซึ่งจะใช้ทดสอบครูชาวต่างชาติภายในสิ้นปีนี้เพื่อใช้เสมือนใบประกอบวิชาชีพให้เเล้วเสร็จก่อนจะเริ่มทดสอบครูไทย ซึ่งอนาคตคุรุสภาต้องอิงมาตรฐานเพื่อออกใบประกอบวิชาชีพให้เเละอาจต่อยอดเเนวคิดไปทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษของวิชาชีพอื่นๆ
ทั้งนี้ ยังเป็นร่วมมือต่อเนื่องในการพัฒนาพิมพ์เขียวข้อสอบ (Test Specifications) ตามมาตรฐานความสามารถด้านภาษาอังกฤษในแต่ละระดับ เพื่อให้สถานศึกษาและหน่วยทดสอบต่าง ๆ สามารถผลิตข้อสอบที่ได้มาตรฐานเทียบเสียงสากล โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นในปี 2560 .-สำนักข่าวไทย