“หมอริชาร์ด แฮร์ริส” โพสต์เฟซบุ๊กยกย่องทุกฝ่ายภารกิจช่วยทีมหมูป่า

ออสเตรเลีย 14 ก.ค.61- หมอริชาร์ด แฮร์ริส ที่ร่วมปฏิบัติการกู้ชีวิตทีมหมูป่า ผู้สูญเสียบิดาในช่วงที่หมอกำลังช่วยทีมหมูป่าอยู่ในถ้ำ ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก Richard Harris ไว้ค่อนข้างยาว เล่ารายละเอียดบางอย่างระหว่างปฏิบัติการไว้อย่างน่าสนใจ พยายามจะให้เครดิตแก่ทุกฝ่ายที่ต่างมีส่วนทำให้ปฏิบัติการช่วยเหลือประสบความสำเร็จ


“ผมกำลังนั่งอยู่ด้านหลังของเครื่องบินขนส่งทหารขนาดใหญ่ ซี17 ของกองทัพอากาศออสเตรเลียซึ่งกำลังบินกลับออสเตรเลีย โดยมีเพื่อนร่วมทางคือ เครก (Craig) และสมาชิกคนอื่นๆ จากกรมการค้าต่างประเทศและการค้า สำนักงานตำรวจ และกองทัพออสเตรเลีย

ตอนนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสแรกที่ได้หยุดอยู่นิ่งๆ จริงๆ เพื่อนึกย้อนสะท้อนภาพเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาไม่น่าเชื่อเมื่อ 8 วันที่ผ่านมา ตั้งแต่เครกกับผมถูกส่งเป็นทีมเล็กๆ จากออสเตรเลียเพื่อร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือเด็กติดถ้ำที่เชียงราย ภาคเหนือของประเทศไทย


ตอนที่เราสองคนเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ นักดำถ้ำจากออสเตรเลียเช่น เบน เรย์เมแนนต์ส (Ben Reymenants) และ 4 ยอดนักดำถ้ำจากสหราชอาณาจักร คือ จอห์น โวลันเธน (John Volanthen) ริค สแตนตัน (Rick Stanton) เจสัน มัลลินสัน (Jason Mallinson) และ คริส เจเวลล์ (Chris Jewell) ได้ดำมุดลึกเข้าไปในถ้ำเพื่อนำเชือกขนาดใหญ่ไปขึงวางไว้ก่อนหน้าเพื่อให้กรุยทางให้คนที่ดำน้ำถ้ำตามมาทีหลังตามไปได้ถูกทางและเป็นไปอย่างปลอดภัย ความพยายามและทักษะของบุคคลเหล่านี้ในการเปิดเส้นทางล่วงหน้าไม่สามารถประเมินค่าต่ำหรือมองข้ามความสำคัญไปได้เลย เพราะการดำไปทีหลังตามเส้นทางที่คนอื่นได้เจอและมาร์คไว้แล้วมันง่ายกว่าการมุดดำคลำหาทางด้วยตัวเอง

ริค กับ จอห์น ไม่เพียงแต่ได้พบเด็กและโค้ชว่าทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังสื่อสารความหนักเบาของสถานการณ์ให้โลกภายนอกได้รับรู้และนำไปสู่การลงมือปฏิบัติการกู้ชีวิตได้อย่างจริงจังและทันการณ์ จากนั้นนักดำถ้ำชาวบริติชทั้ง 4 คน ได้ดำต่อเพื่อเอาอาหารไปให้เด็กและโค้ช ขณะเดียวกันหน่วยซีลจากกองทีพเรือของไทย 4 คน ก็ลงมือเตรียมพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือ 13 ชีวิตในที่สุด

ขณะเดียวกัน ด้านนอกถ้ำ ชาวไทยและนานาชาติจำนวนมากก็ได้ส่งกำลังคนทั้งชายหญิงมาอำนวยความสะดวกแทบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ทั้งอาหารการกิน เครื่องมือสื่อสาร กองทัพสื่อมวลชนจำนวนมากมาทำข่าว คนงานจำนวนมหาศาลขนเครื่องไม้เครื่องมือหนักหลายตันเพื่อทำการสูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อให้ปฏิบัติการดำถ้ำดำเนินไปได้


“ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิตที่มนุษย์พยายามต่อสู้กับพลังธรรมชาติของมวลน้ำในฤดูมรสุมเพื่อให้อยู่ภายใต้การควบคุมให้ได้”

คนงานที่ทำหน้าที่ปีนป่ายโยงสายขึงเชือกก็ทำไป คนอีกกลุ่มที่ทำหน้าที่ตัดพุ่มไม้ลัดเลาะเสาะหาทางเข้าถ้ำทางอื่นก็ทำไปเผื่อจะได้มีปล่องช่องเข้าไปในถ้ำได้มากขึ้น ทีมขุดเจาะก็พยายามทำเซาะหินยาวเป็นกิโลเพื่อให้ถึงจุดที่ 13 ชีวิตติดอยู่ได้ และในเวลาทั้งหมดนั้น ทหารเรือหน่วยซีลผู้กล้าหาญทั้ง 4 ที่นั่งอยู่กับทีมหมูป่าก็รู้สึกได้ว่า พวกเขากับเด็กๆ ทีมหมูป่าก็ตกอยู่ในภาวะอันตรายไม่ต่างกัน

เมื่อดูเหมือนว่าไม่สามารถพึ่งทางเลือกอื่นได้ ก็นำมาสู่การตัดสินใจว่าต้องว่ายน้ำนำเด็กๆ ออกมาจากบริเวณที่ติดอยู่ ขณะนำเด็กออกมานั้น  4 คน ยังดำต่อเพื่อนำลำเลียงเสบียงไปให้ เด็กๆ โค้ช และทีมหน่วยซีลที่อยู่ดูแล 13 ชีวิต ให้มีความพร้อม ประคับประคองตัวเองต่อไปได้ในที่สุด

เมื่อเด็กๆ และโค้ช ถูกส่งมาถึงโถง 3 ทีมปฏิบัติการนานาชาติทั้งสหรัฐ ออสเตรเลีย จีน และแพทย์จากหน่วยซีลของไทยก็ทำการประเมินอาการของเด็กๆ ก่อนรีบส่งต่อยังโรงพยาบาลสนาม ก่อนหามส่งโรงพยาบาลเชียงรายฯ เราโชคดีที่ได้มีโอกาสเยี่ยมเด็กๆ และโค้ชที่โรงพยาบาล ได้เห็นทีมแพทย์และพยาบาลสวยๆ ที่โรงพยาบาลก่อนเดินทางกลับบ้าน

ผมอยากเขียนเรื่องนี้เพื่อพยายามจะให้เครดิตแก่ทุกๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในการช่วยเหลือทีมหมูป่า ขณะที่สปอตไลท์ส่องมาที่เครกและผมเพื่อชื่นชมในความพยายาม แต่เราสองคนอยากจะให้ทุกคนได้ตระหนักว่า บทบาทของเราไม่ได้มีความสำคัญมากกว่าหรือน้อยกว่าคนอื่นๆ จำนวนนับร้อยนับพันที่ผมได้กล่าวถึง ภารกิจในส่วนที่เราได้ปฏิบัติอาจจะถูกยกให้ดูสูงส่งกว่าความเป็นจริง พวกเรารู้สึกแต่เพียงว่า โชคดีที่เราได้มีโอกาสได้ใช้ทักษะบางประการในการช่วยทำให้ปฏิบัติการช่วยชีวิตสัมฤทธิ์ผลอย่างดีเยี่ยม

ขอมอบคำขอบคุณเป็นพิเศษแก่หน่วยงานต่างๆ ทั้งในออสเตรเลียและประเทศไทยที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับพวกเรา  ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของจ่าเอกสมาน กุนัน ที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่า ที่บ้านเราคงต้องขอบคุณครอบครัวที่ช่วยจัดการรับมือกับสื่อ และคอยเป็นห่วงเป็นใย

สุดท้ายสำหรับคนจำนวนมากมายทั้งคนไทยและจากทั่วโลกที่ส่งข้อความมาสื่อสารชื่นชมและเป็นกำลังใจมาให้ ซึ่งเราสองคนได้อ่านทุกข้อความที่ส่งมาจาก แฮร์รี่ และ เครก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย