เชียงราย 7 ก.ค.-กองทัพสื่อไทยและต่างชาติที่ลงทะเบียนรายงานข่าวเหตุการณ์ถ้ำหลวงขณะนี้ทะลุกว่า 1 พันคนแล้ว ส่งผลให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดจัดระเบียบสื่อ ขณะที่ทุกหน่วยงานต้องทำงานแข่งเวลา เพื่อจะพาน้องๆ หมูป่าออกมาจากถ้ำให้เร็วที่สุด
2-3 วันนี้ คือ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ระบุว่า มีความเหมาะสมในการเดินหน้าภารกิจพาน้องกลับบ้าน ล่าสุดหน่วยซีลได้ลากสายท่ออากาศและสายโทรศัพท์ไปถึงโถง 3 แล้ว อย่างไรก็ตามจะลดจำนวนคนที่โถง 3 ลง เพราะหากมีคนเยอะ อากาศก็ยิ่งน้อย ในส่วนปฏิบัติการเหนือถ้ำก็เดินหน้าเช่นกัน ทีมรังนก จาก จ.ตรัง ยังปีนเขาค้นหาปล่องถ้ำอย่างไม่ลดละ ต่างประเทศหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้ต่อเนื่อง เช่น อังกฤษ ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำในถ้ำมาอีก 4 คน ส่วนอิสราเอลเข้าหารือแนวทางช่วยเหลือว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง
อีกภารกิจสำคัญ คือ การเอาน้ำออกจากถ้ำ ถือว่าประสบความสำเร็จ ตอนนี้ระดับน้ำลดลงมาก อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายกังวลว่าหากมีฝนตกลงมาตามพยากรณ์อากาศ จะทำให้น้ำในถ้ำท่วมสูงขึ้นอีก ส่งผลให้จุดที่เด็กๆ รออยู่ เหลือพื้นที่พักพิงไม่ถึง 10 ตารางเมตร ดังนั้นจึงต้องเร่งระบายน้ำออก
ทีมรังนกนางแอ่น เกาะลิบง ที่เชี่ยวชาญการโรยตัวด้วยเชือกในระยะไกล ขึ้นเขานางนอน สำรวจปล่องเป็นวันที่ 2 เพื่อหาเส้นทางเชื่อมไปสู่ถ้ำหลวงช่วยเหลือ 13 ชีวิต ที่ยังติดอยู่ในถ้ำ
เหตุการณ์ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง เป็นข่าวที่ทั่วโลกให้ความสนใจ สื่อไทยและต่างประเทศ ลงทะเบียบกว่า 1 พันคน หลายครั้งมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จึงเพิ่มความเข้มงวด โดยสื่อทุกคนต้องแสดงบัตรที่ทางกองอำนวยการร่วมออกให้ตลอดเวลาเข้า-ออกพื้นที่ หากไม่มีบัตรก็จะเชิญออกจากพื้นที่ทันที นอกจากนี้กำหนดพื้นที่หวงห้ามไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปเด็ดขาด มีการยกรถสื่อและเจ้าหน้าที่ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกจากเส้นทางเข้า-ออก ถ้ำหลวง
และที่เห็นอยู่ คือ เต็นท์ทำงานของซีลและทีมสนับสนุน ซึ่งมีการนำตาข่าย หรือ สแลนสีเขียว มาปิดกั้น ไม่ให้สื่อและคนที่ไม่เกี่ยวข้องรบกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย