กรุงเทพฯ 7 ก.ค.-กสิกรไทย คาดค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าอีกหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาอ่อนค่าสุดในรอบกว่า
8 เดือน ตลาดยังกังวลสงครามการค้าจีน-สหรัฐ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงาน การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า
8 เดือนครั้งใหม่ 33.29 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นับว่าค่าเงินบาทและสกุลเงินอื่นในภูมิภาคทยอยอ่อนค่าลง
สอดคล้องกับแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง และการอ่อนค่าของเงินหยวน แม้ธนาคารกลางจีนได้ออกมาส่งสัญญาณเข้าดูแลเสถียรภาพค่าเงินก็ตาม
ท่ามกลางความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ
กับจีน เนื่องจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ
เริ่มมีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 6 ก.ค. 2561 อย่างไรก็ตาม กรอบการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มจำกัดลงในช่วงก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
โดยในวันศุกร์ (6
ก.ค.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 33.17 เทียบกับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (29 มิ.ย.)
ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดเหนือระดับ
1,600
จุดช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับที่ 1,614.76 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.20% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับเพิ่มขึ้น 7.42%
จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 57,270.73 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai
ปิดที่ 419.12 จุด เพิ่มขึ้น 0.61% จากสัปดาห์ก่อน
สำหรับสัปดาห์หน้า (9-13 ก.ค.)
ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.80-33.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วน บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า
ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,560 และ 1,585 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,630 และ 1,650 จุด โดยต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินหยวนของจีน
และข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมถึงรายงานนโยบายการเงินของเฟดที่เสนอต่อสภาคองเกรส
และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดในระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต
ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออกเดือนมิ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น)
เดือนก.ค. นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.
ของจีนด้วยเช่นกัน -สำนักข่าวไทย