กทม. 4 ก.ค.-เปิดเคล็ดลับความสำเร็จเด็กเก่ง คะเเนนสูงสุดเเอดมิสชันส์อันดับ1และ 2 ค้นหาสิ่งที่ใช่เเละเริ่มอ่านหนังสือตั้งเเต่เนิ่น ๆ โดยอันดับ 1 อยากเป็นนักข่าวเเม้พ่อเเม่เป็นหมอ ขณะที่อันดับ 2สนใจจิตวิทยา ศึกษาพฤติกรรมมนุษย์ลดความขัดเเย้งในสังคม
น.ส.ชญานิษฐ์ ศรีวิโรจน์ หรือนีน่า นักเรียนชั้นม.6 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สอบได้คะเเนนสูงสุดของประเทศ กล่าวว่า ดีใจมาก ๆ ที่ความพยายามเเละทุ่มเทของตนเป็นผลสำเร็จ เเละได้เรียนในคณะที่ชื่นชอบตั้งเเต่เด็ก ตนเลือกเรียนนิเทศศาสตร์เพราะอยากเป็นนักข่าวเเละ ผู้ประกาศข่าว สนใจติดตามข่าวสารบ้านเมืองเเละชอบฝึกเป็นนักข่าวหน้ากระจกบ่อยครั้ง พอโตขึ้นก็ยิ่งศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพนี้มากขึ้น จนหลงรักเเละเลือกเรียน เเม้ว่าทั้งพ่อเเละเเม่จะเป็นเเพทย์ทั้งคู่ก็ตาม เพราะมองว่าหากได้ทำในสิ่งที่ชอบก็จะรักในอาชีพเเละทำออกมาได้ดีที่สุด เมื่อรู้ว่าชอบด้านนิเทศศาสตร์ ก็ตั้งเป้าหมาย ตั้งใจเรียนในห้องเรียนเเละทบทวนบทเรียนทุกครั้งเพื่อให้เข้าใจ เเบ่งเวลาอ่านหนังสือ ที่สำคัญต้องมีเวลาพักผ่อนด้วย ไม่ได้หักโหม เเละควรเตรียมตัวให้พร้อมตั้งเเต่เนิ่นๆ ไม่ใช่มาเริ่มอ่านช่วงใกล้สอบ
ส่วนความกังวลที่ว่าขณะนี้อาชีพสื่ออยู่ในช่วงวิกฤติเพราะหลายสำนักพิมพ์และหลายช่องทยอยปิดตัวเเละไม่ได้เป็นอาชีพที่ตลาดเเรงงานในปัจจุบันต้องการนั้น ตนมองว่าเเม้อยู่ในช่วงวิกฤติ เเต่สื่อมวลชนยังเป็นอาชีพที่สำคัญในการรายงานความจริงให้ประชาชนทราบ ยังไงก็อยู่รอด เเต่อาจต้องปรับทิศทางมาทางออนไลน์มากขึ้น
ด้าน พญ.สุวิมล ศรีวิโรจน์ เเม่ของน้องนีน่า กล่าวว่า ดีใจกับความสำเร็จของลูกในครั้งนี้เพราะเห็นลูกบ่นเหนื่อยหลายครั้ง ส่วนที่ลูกสนใจอยากเรียนด้านนิเทศศาสตร์นั้น ก็ยินดีเเละไม่ว่าจะเป็นสาขาใด หากลูกชอบ ตนก็พร้อมสนับสนุนทุกเส้นทาง เพราะเชื่อว่าหากลูกได้ทำในสิ่งที่รักเเละชอบ ก็จะทำให้ลูกมีความสุข
ขณะที่นายวิศรุต กองสุข หรือฟิล์ม นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนราชวินิตบางเเก้ว จ.สมุทรปราการ ได้คะเเนนสูงสุดอันดับ 2 ของประเทศกล่าวว่า รู้สึกเกินความคาดหมายที่ได้คะเเนนสูง เเต่ก็ดีใจ เพราะที่ผ่านมาทุ่มเทอ่านหนังสือเเละหมั่นทำโจทย์เเบบฝึกหัด เรียนพิเศษเเค่วิชาที่จำเป็น โดยเริ่มสำรวจความชอบเเล้วหาคณะที่ใช่ จากนั้นศึกษาข้อมูลว่าคณะนั้นจะต้องสอบวิชาอะไรบ้างเเละเริ่มอ่านตั้งเเต่ขึ้นม.6 โดยเลือกเรียนด้านจิตวิทยา เพราะอยากศึกษาความสัมพันธ์เเละพฤติกรรมของมนุษย์ เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ดีเเละความเข้าใจกันมากขึ้น เพราะเชื่อว่าหากมีการสื่อสารที่ดี สังคมก็จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขขึ้น อย่างปัจจุบันพบการสื่อสารที่ไม่ดี ข้อมูลไม่ถูกต้อง ชัดเจนก็จะไปกระตุ้นความรุนเเรงของคนในสังคมมากขึ้น ทั้งนี้เเนะนำน้องๆที่จะสอบปีหน้าว่า หาสิ่งที่ชอบ ตั้งเป้าหมายเเละเริ่มอ่านหนังสือ เพราะหากเตรียมตัวช้า สิ่งที่หวังก็อาจหลุดมือได้ .-สำนักข่าวไทย