กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – รมว.พลังงานส่งสัญญาณต่ออายุเอสพีพี 3 ปี ตามสัญญาเดิม หลังจากนั้นจะรับซื้ออย่างไรกำลังพิจารณาความเหมาะสม
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การพิจารณาแนวทางรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ระบบโคเจนเนอเรชั่นที่จะหมดสัญญาในช่วงปี 2560-2568 นั้น นโยบายจะพิจารณาให้ทุกรายได้สิทธิ์เหมือนกัน คือ จะได้รับการต่ออายุในปริมาณรับซื้อเท่าดิม ในปริมาณไม่เกิน 90 เมกะวัตต์ต่ออายุออกไปอีก3 ปีนับจากวันสิ้นสุดสัญญา หลังจากนั้นจะรับซื้ออย่างไร กระทรวงพลังงานกำลังพิจารณารูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมอีกครั้ง คาดว่าจะมีการพิจารณาในการประชุม กบง.วันที่ 4 กรกฎาคมนี้ แต่รูปแบบจะแตกต่างไปจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เดิม
“เอสพีพีทุกรายได้สิทธิ์เช่นเดียวกัน คือ ซื้อเท่าเดิมต่ออายุ 3 ปีหลังหมดสัญญา หลังจากนั้นจะรับซื้อใหม่รูปแบบใดกำลังพิจารณาความเหมาะสม ยังไม่ได้สรุปว่าจะเป็นรูปแบบเอสพีพี เพาเวอร์พูลแต่อย่างใด”นายศิริ กล่าว
ทั้งนี้ เอสพีพีที่หมดอายุมีประมาณกว่า 20 รายกำลังผลิตรวม กว่า 2,000 เมกะวัตต์ และ มติ กพช. 30 พฤษภาคม 2559 มีมติการปรับปรุงแนวทางสนับสนุน SPP-Cogeneration ที่กำลังจะหมดอายุสัญญาSPP-Cogeneration ที่จะสิ้นสุดสัญญาปี 2560–2568 ดังนี้ กลุ่มที่ 1 : SPP-Cogeneration ที่จะสิ้นสุดอายุสัญญาภายในปี 2560–2561 (ต่ออายุสัญญา) ให้มีระยะเวลาสัญญา 3 ปี ปริมาณรับซื้อไม่เกิน 60 เมกะวัตต์ และไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิม ราคารับซื้อไฟฟ้า (ณ ราคาก๊าซ 263 บาท/MMBTU) ในอัตรา 2.3753 บาท/kWh
กลุ่มที่ 2 : SPP-Cogeneration ที่จะสิ้นสุดอายุสัญญาภายในปี 2562–2568 (ก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่) ให้มีระยะเวลาสัญญา 25 ปี ปริมาณรับซื้อไม่เกิน 30 เมกะวัตต์ และไม่เกินร้อยละ 30 ของกำลังผลิตไฟฟ้าสุทธิรวมไอน้ำ (Net Generation) ไฟฟ้ารวมไอน้ำ และจะต้องไม่เกินกว่าปริมาณขายไฟฟ้าตามสัญญาเดิม ราคารับซื้อไฟฟ้า ในอัตรา 2.8186 บาท/kWh (ที่ราคาก๊าซธรรมชาติ 263 บาท/ล้านบีทียู) ทั้งนี้ โครงการ SPP-Cogeneration ที่ได้รับสิทธิ์การก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ให้ดำเนินการก่อสร้างได้ในพื้นที่เดิม หรือพื้นที่ใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมและสวนอุตสาหกรรม
รวมทั้งมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ดำเนินการศึกษา SPP-Power Pool เพื่อรองรับกลไกการประมูลรับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินในอัตราส่วนลดพิเศษในอนาคต โดยให้รีบกลับมานำเสนอ กบง. และ กพช. ตามลำดับต่อไป.-สำนักข่าวไทย