เปิดข้อมูลพาราควอต พิษภัยกับผลประโยชน์ ตอน 1

กรุงเทพฯ 21 มิ.ย. – มีการเรียกร้องให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายเปิดเผยข้อมูลที่ใช้พิจารณา จนนำไปสู่การมีมติไม่ยกเลิกการใช้สารเคมีวัตถุอันตรายพาราควอต และสารเคมีกำจัดศัตรูพืชอีก 2 ชนิด วันนี้จะนำเสนอผลการศึกษาสำคัญ ทั้งที่สนับสนุนและคัดค้าน ก่อนการลงมติดังกล่าวที่ยังคงเป็นที่กังขา ติดตามรายงานพิเศษ “เปิดข้อมูลพาราควอต พิษภัยกับผลประโยชน์” วันนี้นำเสนอเป็นตอนแรก



ภาคีเครือข่ายต้านสารเคมีวัตถุอันตราย 3 ชนิด พาราควอต ไกลโฟเสต หรือยาฆ่าหญ้า และคลอร์ไพริฟอส หรือยาฆ่าแมลง ยังคงเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการใช้ ห้ามนำเข้าไทย และไม่เห็นด้วยกับรูปแบบการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างภาคประชาชนกับรัฐ เพื่อรวบรวมข้อมูลเสนอผลกระทบ เพราะมองว่าเป็นเกมการถ่วงเวลา 


ปลายเดือนที่แล้ว คณะกรรมการวัตถุอันตราย มีมติให้ใช้สารเคมีวัตถุอันตราย 3 ชนิดนี้ต่อไปได้ อ้างข้อมูลผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพยังมีไม่เพียงพอ และให้กรมวิชาการเกษตรไปหาแนวทางจำกัดการใช้ที่เหมาะสมภายใน 60 วัน แต่กลับไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนถึงงานวิจัยและข้อมูลที่ใช้พิจารณา  


มีงานวิจัยหลายเรื่องที่ศึกษาการใช้สารเคมีเหล่านี้ มีผลทั้งที่สนับสนุนและคัดค้าน เช่น งานวิจัยการตกค้างของสารกำจัดศัตรูพืชในแม่และทารก โดยศึกษาระดับไกลโฟเสต และพาราควอต ในซีรัมหรือเลือดที่สกัดแล้วของมารดาและสายสะดือทารก ซึ่งมีการนำผลวิจัยนี้เสนอต่ออนุกรรมการวัตถุอันตรายด้วย โดยผู้วิจัยอธิบายว่า ใช้กลุ่มตัวอย่างจากโรงพยาบาล 3 แห่ง ที่กาญจนบุรี นครสวรรค์ และอำนาจเจริญ พบข้อมูลสำคัญหลายเรื่อง เช่น มีการถ่ายทอดสารเคมีทั้ง 2 ชนิด จากมารดาสู่ทารก ผ่านทางรกและสายสะดือ โดยพาราควอตถ่ายทอดได้มากกว่าไกลโฟเสต และพบพาราควอตในซีรัมมารดาที่อยู่และไม่อยู่ในพื้นที่เกษตรไม่แตกต่างกัน 

นักวิชาการด้านพืชที่เข้าให้ข้อมูลต่ออนุกรรมการอีกรายหนึ่ง ระบุว่า การปลูกพืชเศรษฐกิจยังจำเป็นต้องใช้สารเคมี เพื่อเพิ่มผลผลิต หากใช้ถูกวิธีจะส่งผลกระทบน้อย สารพาราควอต เมื่อฉีดพ่นลงดินจะถูกอนุภาคดินจับไว้ แม้จะสลายตัวได้ แต่จะสะสมในดิน พาราควอตจะเผาไหม้เฉพาะใบที่มีคลอโรฟิลล์ ทำให้ใบไหม้ ออกฤทธิ์ภายใน 30 นาที แต่จะไม่ซึมสู่รากพืช ต่างจากไกลโฟเสตที่ดูดซึมเข้ารากได้ จึงมีความนิยมใช้พาราควอตแทนไกลโฟเสต 

ข้อมูลการนำเข้าสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ในปีที่แล้ว พบว่า มีการนำเข้ายาฆ่าหญ้าพาราควอต 44.5 ล้านกิโลกรัม นำเข้าไกลโฟเสตเกือบ 60 ล้านกิโลกรัม ยาฆ่าแมลงคลอร์ไพริฟอส 3.7 ล้านกิโลกรัม มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ไม่ยกเลิกการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด สวนทางกับมติร่วมระหว่างสาธารณสุขกับอีก 5 กระทรวง ที่ให้ยกเลิกการใช้พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส ภายในเดือนธันวาคม 2562 และจำกัดการใช้สารไกลโฟเสต

นโยบาลรัฐที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจนต่อสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งใช้กันมายาวนานกว่า 50 ปี และหากยกเลิกจะมีแนวทางใดมาทดแทน เป็นประเด็นที่เกษตรกรให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก