สำนักข่าวไทย 4 มิ.ย.- พศ.ชี้ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หากตำรวจพบหลักฐานภาพ ‘เจ้าคุณปิง’ กระทำไม่เหมาะสม ต้องส่งเรื่องให้เจ้าคณะปกครองสอบอธิกรณ์
นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม และรองโฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหา พระวิสุทธิศาสนวิเทศ หรือเจ้าคุณปิง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ว่ากระทำผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง หลังไปค้นที่กุฏิแล้วพบภาพที่ไม่เหมาะสม ว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะพระที่ถูกกล่าวหาด้วย ซึ่งขอทำความเข้าใจว่า หากเป็นเรื่องของคดีอาญา ก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบ้านเมือง หากพระถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดพระธรรมวินัย ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าคณะผู้ปกครอง ที่จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง หรือสอบอธิกรณ์เรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อสืบสวนให้ความเป็นธรรมกับพระที่ถูกกล่าวหา เมื่อดำเนินการสอบสวนแล้วหากพระรูปดังกล่าวกระทำผิดจริง เจ้าคณะผู้ปกครอง จะพิจารณาโทษตามพระธรรมวินัย
อย่างไรก็ตามกรณีของเจ้าคุณปิงก็เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องของพระธรรมวินัย ก็ต้องให้มีผู้ร้องมาถึงเจ้าคณะผู้ปกครอง หรือหากเจ้าคณะผู้ปกครองเห็นว่า จะกระทบต่อพระพุทธศาสนา ก็สามารถดำเนินการสอบอธิกรณ์ เพื่อสอบข้อเท็จจริงได้เลยเช่นกัน
ด้าน นายรักสยาม นามานุภาพ นายกสมาคมเปรียญธรรม 9 ประโยค กล่าวว่า กรณีดังกล่าวต้องแยกเป็น 2 ประเด็น คือทางกฏหมายบ้านเมืองมีสิทธิตรวจสอบ แต่ในทางพระธรรมวินัย ตำรวจต้องร้องมาทางเจ้าคณะปกครองหรือเจ้าอาวาสเพื่อให้สอบอธิกรณ์หรือการสอบข้อเท็จจริงทางสงฆ์ก่อน และการนำข้อมูลออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะที่ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง และยังไม่มีการสอบสวน ถือว่าละเมิดสิทธิของพระซึ่งถือเป็นประชาชนไทยคนหนึ่ง พระมีสิทธิที่จะฟ้องหมิ่นประมาทได้ อย่างไรก็ตาม หากพบหลักฐานชัดเจน หรือ พบการกระทำผิดอนาจารซึ่งหน้า หรือเสพสังวาสซึ่งหน้า ถึงจะปาราชิก และไม่มีสิทธิกลับมาบวชอีก .-สำนักข่าวไทย