ลุ้นศาลฎีกาฯ สั่งรับ-ไม่รับฟ้องทักษิณ

ศาลฎีกาฯ 7 พ.ค.- ศาลฎีกาฯ รอเลือกองค์คณะ 9 คน-เจ้าของสำนวน   ลุ้นสั่งรับ-ไม่รับฟ้อง “ทักษิณ” ปฏิบัติหน้าที่มิชอบอนุมัติ ก.คลัง เข้าฟื้นฟู ทีพีไอทั้งที่ไม่มีอำนาจ  


ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถ.แจ้งวัฒนะ  เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ได้นำสำนวนการไต่สวนพร้อมเอกสารหลักฐาน 21 กล่อง 120 แฟ้ม ที่มีมติชี้มูลความผิดอาญานายทักษิณ ชินวัตร  อดีตนายกรัฐมนตรี   กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีเห็นชอบให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนคนใหม่ของบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ   อันเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวง การคลัง ไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารบริษัทเอกชน มายื่นฟ้องนายทักษิณ  ชินวัตร อายุ 69 ปี อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

โดยศาลนำคดีเข้าสู่ สารบบความหมายเลขดำ อม.40/2561 เพื่อจะพิจารณาและมีคำสั่งต่อไปว่าคดีอยู่ในอำนาจศาล และคำฟ้องถูกต้องตามกฎหมายที่จะประทับรับฟ้องไว้พิพากษาได้หรือไม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามขั้นตอนเมื่อมีการยื่นฟ้องคดีแล้ว ต่อไปจะต้องกำหนดนัดประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้ง 176 คน เพื่อเลือกผู้พิพากษาระดับตั้งแต่ผู้พิพากษาศาลฎีกาขึ้นไป หรือผู้พิพากษาอาวุโส ระดับศาลฎีกา รวม 9 คน  เพื่อมาเป็นองค์คณะพิจารณาคดีและเลือกผู้พิพากษา 1 ใน 9 ดังกล่าวเป็นเจ้าของสำนวนต่อไป

สำหรับคดีนี้ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2553  ด้วยคะแนน 6 ต่อ 2 ซึ่งการไต่สวนของ ป.ป.ช.พบว่า ระหว่างนายทักษิณ  เป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมี ร.อ.สุชาติ เชาว์วิศิษฐ เป็น รมว.คลัง ได้มาหารือเรื่องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัททีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน และนายทักษิณให้ความเห็นชอบการดำเนินการดังกล่าว โดยการที่กระทรวงการคลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูของทีพีไอ เป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารบริษัทเอกชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2546 มาตรา 10 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ

ส่วน ร.อ.สุชาติ ที่ยินยอมให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนของบริษัททีพีไอ ก็มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ เช่นกัน แต่ ร.อ.สุชาติ ได้ถึงแก่กรรม ป.ป.ช.จึงให้จำหน่ายคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง