กรณ์ ขอโทษสังคมแทนลูกเลี้ยง กรณีพบโคเคน

กทม. 5 พ.ค. – ตำรวจ สน.ทองหล่อ ตั้งจุดตรวจจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมตรวจค้น ติ๊งค์ พันธิตร ลูกเลี้ยงของนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง ล่าสุด นายกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณทุกกำลังใจ


จากกรณีตำรวจ สน.ทองหล่อ ตั้งจุดตรวจจับกุมสิ่งผิดกฎหมาย ที่หน้าอาคารโอเชี่ยนทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก พร้อมตรวจค้น นายพันธิตร มหาเปารยะ หรือติ๊งค์ น้องชายของแต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ ดาราหนุ่ม ลูกชายนางวรกร จาติกวณิช และลูกเลี้ยงของนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบโคเคนบรรจุถุงพลาสติก น้ำหนัก 0.920 กรัม พร้อมหลอดพลาสติกสีดำ 2 อัน บรรจุในซองพลาสติกใส ราคา 1,000 บาท ในกระเป๋าสตางค์ ซึ่งอยู่ในกระเป๋าสะพายผู้ต้องหา จึงคุมตัวแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครอง เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา


วานนี้ (4 พ.ค.) ตำรวจ สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวนายพันธิตร ส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน โดยระหว่างที่คุมตัวไปขึ้นรถ นายพันธิตร ได้ตะโกนบอกสื่อมวลชนที่มาทำข่าวว่า “อย่าถ่ายรูปผมนะ” พร้อมพูดต่อว่า “สนุกกันใหญ่เลยนะครับ” ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะพาขึ้นรถตราโล่นำส่งศาลอาญากรุงเทพใต้ ต่อมาในช่วงบ่าย ญาติยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยชั่วคราวนายพันธิตร ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้นายพันธิตรได้ประกันตัวไปโดยตีราคาหลักทรัพย์ 10,000 บาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใดๆ และให้รายงานตัวหลังครบฝากขังครั้งที่ 4 ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้


รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่นายพันธิตรถูกคุมตัวมาที่ สน.ทองหล่อ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. มีแต่นายแต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ ดารานักแสดง ที่เป็นพี่ชายเข้าเยี่ยมคนเดียว ส่วนนายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง พ่อเลี้ยง ไม่ได้เดินทางเข้าเยี่ยมแต่อย่างใด

นายพันธิตร ให้การยอมรับว่า เสพยาโคเคนจริง แต่เพิ่งทดลองเสพ นานๆ จะเสพครั้งหนึ่ง โดยซื้อโคเคนมาจากเพื่อนคนหนึ่ง ที่ไม่สนิทกันมาก โดยนัดรับส่งยาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ย่านราชดำริ โดยเพื่อนจะนำโคเคนมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนตนเองจะเดินไปหยิบ และเข้าไปเสพในห้องน้ำของร้านอาหาร ส่วนยาเสพติดที่เหลือส่วนหนึ่งตั้งใจจะนำกลับมาที่บ้าน เพื่อเสพต่อ แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมระหว่างกลับบ้าน หลังจากถูกจับกุมตัวนายพันธิตรไม่ได้ติดต่อพ่อ แม่ เพราะไม่ต้องการให้รู้เรื่องนี้ ทั้งนี้ นายพันธิตรปฏิเสธให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ถึงชื่อเพื่อนที่นำของมาให้ และจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังสอบปากคำพยานอีก 4 ปาก รอผลการตรวจสอบของกลาง และรอผลการตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำหรับยาเสพติดประเภทโคเคน เป็นยาเสพติดที่นิยมในพวกนักเรียนนอกและสังคมชั้นสูง เป็นผงสีขาว เวลาเสพจะจุดไฟลงผงโคเคนก่อนสูดดม โดยในปัจจุบันยาเสพติดประเภทนี้หายากในท้องตลาดและมีราคาแพง และเป็นยาเสพติดเฉพาะกลุ่ม

วันเดียวกัน นายกรณ์ จาติกวณิช ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Korn Chatikavanij” ว่า “ต้องขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ผมและภรรยานะครับ ในฐานะคนในครอบครัวเดียวกัน ในเมื่อติ๊งค์ได้ออกมาขอโทษและให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงตัวเอง เราก็ต้องให้โอกาสและความช่วยเหลือ นอกจากนั้นก็คือปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมายตามปกติ เมื่อคืนเขาก็นอนในห้องขังอยู่หนึ่งคืน คงจะได้คิดอะไรบ้าง และเท่าที่ทราบเจ้าตัวเขาก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยดี วันนี้หากศาลกรุณาเราก็คงไปประกันตัวเขาออกมาและรอฟังคำสั่งศาลต่อไป

“ในฐานะที่ติ๊งค์เป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ผมอยากจะขอโทษแทนน้องเขา บทเรียนครั้งนี้น่าจะทำให้เขาโตขึ้น และหวังว่าสังคมจะให้โอกาสเขาในอนาคต หลังจากกระบวนการทางกฎหมายต่างๆ สิ้นสุดแล้ว หากมีข้อเสนอแนะใดที่ผมในฐานะพ่อเลี้ยงและหัวหน้าครอบครัวคนหนึ่งพึงกระทำอีก ผมพร้อมเปิดใจรับฟังนะครับ ด้วยความขอบคุณ” 

ก่อนหน้านี้ นางวรกรโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ “Vorakorn Chatikavanij” เมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 4 พ.ค. ว่า “พี่แต๊งไปเยี่ยมแล้ว เพิ่งส่งข่าวมาว่าตอนนี้ทั้ง สน.มีน้องถูกขังอยู่คนเดียว ซื้อยากันยุงกับบะหมี่เป็ดให้น้อง แล้วบอกน้องถามว่า แม่รู้เรื่องหรือยัง” ต่อมาในช่วงเที่ยง นางวรกร ได้โพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง เป็นภาพของนายกรณ์นั่งอยู่ในรถตู้โดยมีสุนัขนอนบนตักของนายกรณ์ พร้อมเขียนข้อความว่า “เน่จะไปปลูกป่ากับพ่อครับ #bene_thefrenchieprince #lifegoeson”

ปิดคดี-คุก15 ปี ยู่ยี่ ขนโคเคน ศาลฎีกา ยกคำร้อง ติดมาแล้ว 2 ปี 9 เดือน ปรับ 1.5 ล. 

ศาลฎีกาไม่รับคำร้อง “ยู่ยี่” อดีตนางแบบชื่อดัง สู้คดีซุกยาเสพติด “โคเคน” จากเวียดนามเข้าไทย เป็นอันปิดฉากคดี ต้องโทษจำคุก 15 ปี 3 เดือน ปรับ 1.5 ล้านบาท เผยที่มาคดีอดีตนางแบบโดนจับคาสนามบินดอนเมือง เมื่อปี 2555 ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ตัดสินจำคุก จนถึงปัจจุบันติดมาแล้ว 2 ปี 9 เดือน

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ศาลอาญา ศาลอ่านคำสั่งศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อย.122/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางชัชชญา เกวสต้า รามอส หรือยู่ยี่ อลิสา อินทุสมิต อายุ 44 ปี อดีตนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง เป็นจำเลยในความผิดฐานมีโคเคน ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณา จักรโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 16, 17, 68 และ 69 .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย