หุ้นแบงก์คาดร่วงหลัง แบงก์ชาติออกประกาศงดจ่ายปันผล




กรุงเทพฯ
20 มี.ค. –“กรณ์-ธีระชัย” 2 อดีต รมว.คลัง เห็นพ้องหนี้เสียกระทบหนักจาก
พิษ”โควิด-19” ทำให้
แบงก์ชาติออกออกประกาศทั้งลดดอกเบี้ยช่วยรายย่อยและห้ามแบงก์พาณิชย์ซื้อหุ้นคืน-จ่ายปันผลระหว่างกาล
คาดจันทร์นี้หุ้นแบงก์ร่วง 

จากกรณี  ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) ประกาศวานนี้ (20
มิ.ย. )ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ
Covid-19 เฟส2  โดยลดดอกเบี้ยร้อยละ 2-4
สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
และเพิ่มวงเงินให้การช่วยเหลือกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/เดือน เป็น 2
เท่าจากเดิม 1.5 เท่า และสั่งธนาคารพาณิชย์ ทำแผนบริหารเงินกองทุนช่วง 3 ปี
รวมทั้งห้ามซื้อหุ้นคืน-งดจ่ายปันผลระหว่างกาล จากผลดำเนินการปี 2563
เพื่อรักษาเงินกองทุนให้แข็งแกร่ง จากความเสี่ยงหลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค
Covid-19  ที่อาจกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ในระยะต่อไป 

นายกรณ์
จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
คำสั่งห้ามธนาคารพาณิชย์จ่ายเงินปันผลและห้ามซื้อหุ้นตัวเองคืน (ลดทุน) เป็นสัญญาณว่า
ธปท.  ได้ประเมินสถานการณ์หนี้เสียว่า
เลวร้ายกว่าที่ปรากฏ โดย สาเหตุที่ ธปท.ต้องออกคำสั่ง  ดังกล่าวอาจจะเป็นเพราะนายแบงค์ต้องการคำสั่งเป็นเกราะกำบังจากความไม่พอใจของนักลงทุนที่รอรับเงินปันผล
เนื่องจากในช่วงหลัง หลายคนเข้าไปซื้อหุ้นเพราะราคาลดลงมาก
ด้วยหวังผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดว่าจะได้รับ ดังนั้นจึงคาดว่า วันจันทร์นี้(22
มิ.ย.)ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารมีโอกาสสูงที่จะปรับลงแรง และมีผลกระทบต่อความมั่นใจทางเศรษฐกิจจะต้องมีอย่างแน่นอน


  นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า สำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการอยู่รอด
วันนี้ ผู้ประกอบการการขนาดกลางและเล็ก (
SME)ทุกระดับยังเข้าไม่ถึงมาตรการของรัฐบาล
ดังนั้นการใช้เงินกู้ของรัฐบาลต้องมีการออกแบบให้ถึงมือผู้ประกอบการโดยตรง รวดเร็ว
ไม่รั่วไหล และต้องมีการใช้ในการจัดซื้อสินค้านำเข้าให้น้อยที่สุด
รอบหมุนของเงินต้องมากที่สุด 

 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ระบุว่า
ได้ให้ข้อคิดเห็นหลายครั้งว่า วิกฤตโควิด-19จะหนักพอกับมหาวิกฤตปี 1930
( พ.ศ.2473 เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก (The Great Depression)  ) และคาดว่าตั้งแต่ไตรมาส
3/2563 เป็นต้นไป จะเกิดปัญหาสภาพคล่อง  ดึงกันไปมา จากบริษัทหนึ่งไปอีกบริษัทหนึ่ง เป็นเหมือนแชร์ลูกโซ่
และสุดท้ายจะวนไปที่แบงค์ ในรูปของ NPL (หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ) ซึ่งขณะนี้ปัญหานี้ถูกแช่แข็งอยู่
กว่าจะรู้ตัวเลข
NPL จริง ก็เมื่อพ้นเดือน ต.ค. ไปแล้ว

นายธีระชัย
ระบุว่า เห็นด้วยกับ การที่  ธปท.
ออกมาตรการกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ จัดทำแผนบริหารจัดการระดับเงินกองทุนให้รัดกุม
และให้ธนาคารพาณิชย์ งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในปี 2563
รวมถึงงดการซื้อหุ้นคืน 
เพราะเป็นการยอมรับความจริง และเตรียมตั้งรับแต่เนิ่นๆอย่างไรก็ตาม ธปท.
เห็นตัวอย่างหลายประเทศตะวันตก ที่ประกาศมาตรการนี้มาหลายเดือนแล้ว ทำไมไม่ประกาศไปพร้อมกับการออก
พระราชกำหนดเกี่ยวกับ เงินกู้ เพื่อดูแลปัญหาผลกระทบจาก โควิด-19 ให้เป็นแพคเกจ
ใหญ่ แต่กลับไปเลือกเลียนแบบเฉพาะแต่การทำ QE โดยรับซื้อตราสารหนี้เอกชน

การประกาศมาตรการเมื่อจวนตัว
ย่อมทำให้นักลงทุนสงสัยว่า ธปท. เริ่มเห็นอาการปัญหาหนักขึ้นในขณะที่ท่านรองนายกรัฐมนตรี
“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ “ประกาศว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเป็นมังกรบินได้
ก็ยิ่งทำให้คนสงสัยหนักขึ้นว่า ธปท. พบปัญหาอะไรเป็นพิเศษ”นายธีระชัย ระบุ

ด้าน
บล. กสิกรไทย วิเคราะห์ว่า การที่ ธปท.สั่งแบงค์งดจ่ายปันผลครึ่งปีและงดโครงการซื้อหุ้นคืน
จะเป็นเชิงลบต่อตลาดซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงสภาพคล่องและผลกระทบจาก
COVID-19 ที่อาจสูงกว่าที่ประเมินเบื้องต้น
คาดราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงประมาณร้อยละ
3-4  และคาดส่งผลต่อ ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ประมาณ 7-10จุด ในเช้าวันจันทร์ และเม็ดเงินลงทุนย้ายเข้ากลุ่มพลังงาน, โรงไฟฟ้า

ด้านบล.
กรุงไทย
 ซีมิโก้  วิเคราะห์ว่า มาตรการห้ามซื้อคืนและงดจ่ายเงินปันผลปีนี้
แม้ว่าจะเป็นมาตรการใหม่สำหรับประเทศไทย
แต่ถือเป็นแนวทางปฎิบัติทั่วไปต่อระบบสถาบันการเงินโลก  เช่น ธนาคารกลางสหรัฐ( เฟด)จะทำ
Stress Test  เพื่อทดสอบระดับเงินกองทุนของธนาคารสหรัฐฯ
ภายใต้สมมุติฐานทางเศรษฐกิจที่แย่กว่าปัจจุบัน ฯลฯ
ก่อนที่จะมีการดำเนินการให้ธนาคารฯใดที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
จะต้องเพิ่มทุนหรืองดการทำธุรกิจเพิ่มเติม 
หรือ อนุญาตให้ธนาคารฯที่ดีกว่าเกณฑ์ สามารถจ่ายปันผลได้ เป็นต้น
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบสถาบันการเงินในระยะยาว

ส่วนประเด็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของ
ธปท. ที่ประกาศล่าสุด ได้กระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มแบงก์และหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์
ไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา
 ก็คาดว่า ข่าวดังกล่าวจะเป็นลบระยะสั้นต่อหุ้นสถาบันการเงินที่มีประวัติจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและในระดับที่สูงกว่าร้อยละ
4 เช่น  ธ.ทิสโก้
(TISCO ), ธ.กรุงเทพ (BBL),ธ.ไทยพาณิชย์ ( SCB) ธ.เกียรตินาคิน (KKP)  แต่เป็นผลบวกในระยะยาวต่อเสถียรภาพของกลุ่มธนาคารพาณิชย์
 ในทางตรงกันข้าม หุ้นที่มิใช่สถาบันการเงิน
ที่มีประวัติการจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ 
คาดว่าจะได้รับผลบวกจากการย้ายเงินลงทุนเพือรับปันผลจากกลุ่มสถาบันการเงิน
เข้ามาเพิ่มเติม -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

เสียงปืนสนั่นชายแดนพบพระ ผู้ปกครองไม่กล้าพาลูกไป รร.

ตาก 28 พ.ค. – เช้านี้สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตึงเครียดหนัก ทหารกะเหรี่ยงและทหารเมียนมายิงปะทะกันด้วยอาวุธหนัก ติดชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก ผู้ปกครองไม่กล้าพาบุตรหลานมาโรงเรียนแนวชายแดน และบางส่วนพึ่งหลุมหลบภัย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ( KNLA ) พร้อมทหารหน่วยพิทักษ์ประชาชน (PDF) จำนวนมากพร้อมอาวุธครบมือ ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมาได้บุกโจมตีทหารเมียนมา จากกองบังคับการควบคุมยุทธการที่ 13 จำนวนกว่า 70 คน ที่กำลังเดินทัพไปเสริมกำลังที่ฐานบ้านทิบาโบ แต่ระหว่างทางถูกทหารกะเหรี่ยงเข้าสกัดจนเกิดการยิงปะทะด้วยอาวุธหนักนานกว่า 1 ชั่วโมง ที่บริเวณสนามกีฬาบ้านส่งซี่เมี่ยน อำเภอซูการี จังหวัดเมียวดี ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างแนวชายแดนไทยไปไม่ถึง 1กิโลเมตร รวมถึงทหารเมียนมาจากฐานทิบาโบ ซึ่งเป็นฐานขนาดใหญ่ ก็ได้ระดมยิงอาวุธหนักเข้าช่วยเหลือทหารเมียนมาด้วย เกิดเสียงระเบิดดังไปทั่วแนวชายแดน ทำให้ชาวบ้าน หมู่บ้านมอเกอไทย ซึ่งเป็นหมู่บ้านฝั่งไทยที่ติดกับพื้นที่ยิงปะทะ เตรียมความพร้อมไปอยู่ในหลุมหลบภัย ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียน มอเกอไทย เผยว่า วันนี้เปิดเรียนตามปกติแต่มีเด็กมาเรียนน้อย เนื่องจากผู้ปกครองส่วนใหญ่เกรงเรื่องความปลอดภัยจึงให้บุตรหลานหยุดเรียน โดยมีทหารชุดเฉพาะกิจราชมนู เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ตำรวจตระเวนชายแดน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านมอเกอ […]

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.-มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

paper with statement supports Harvard

ม.ฮาร์วาร์ดแสดงพลังหนุนนักศึกษาต่างชาติ

เคมบริดจ์ 28 พ.ค.- นักศึกษาและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของสหรัฐ ชุมนุมแสดงพลังสนับสนุนนักศึกษาต่างชาติ และเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยยืนหยัดท่ามกลางแรงกดดันจากรัฐบาลกลาง การชุมนุมเมื่อวานนี้มีขึ้นที่ด้านนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ นักศึกษาและอาจารย์หลายคนผลัดกันขึ้นพูดบนโต๊ะที่ใช้เป็นเวทีชั่วคราว ประธานนักศึกษาชุมชนชาวยิวในฮาร์วาร์ดกล่าวว่า กระแสต่อต้านชาวยิวเป็นปัญหาในฮาร์วาร์ดและปัญหาของสหรัฐมายาวนาน แต่นโยบายของรัฐบาลไม่ช่วยแก้ปัญหานี้เลย ขณะที่อาจารย์รัฐศาสตร์คนหนึ่งกล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการล้มมหาวิทยาลัยที่ยืนหยัดเรื่องการมีความคิดและการแสดงออกอย่างเสรี เพราะเป็นสิ่งที่ขวางทางเผด็จการ และในวันเดียวกัน สำนักงานบริหารงานบริการทั่วไปได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทบทวน และอาจยกเลิกสัญญาที่เหลืออยู่กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งประเมินว่ามีมูลค่าราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,270 ล้านบาท) หลังจากที่ได้ยกเลิกเงินให้เปล่าด้านการวิจัยมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 98,150 ล้านบาท) ไปแล้ว รวมทั้งเพิกถอนสิทธิ์ในการรับนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งมีอยู่ราว 6,800 คน คิดเป็นร้อยละ 27 ของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]