อยุธยา 4 พ.ค.-“ศุภชัย สมเจริญ” หวังพนักงานสอบสวนฯ กกต. ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เห็นแก่สินจ้าง ช่วยคัดกรองคนดีเข้ามาบริหารประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 พ.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นประธานพิธีปิดการอบรมหลักสูตรสืบสวนและไต่สวน ระดับกลาง รุ่นที่ 4 ที่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้จัดอบรมหลักสูตรสืบสวนและไต่สวน ระดับกลาง มาแล้ว จำนวน 3 รุ่น รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 4 โดยมีผู้ผ่านการอบรมทั้ง 4 รุ่น รวมทั้งสิ้น 414 คน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ในการอบรมได้กำหนดให้มีการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานต่าง ๆ สำหรับในภาคปฏิบัติได้ฝึกปฏิบัติการตรวจสอบเส้นทางการเงิน การสืบสวนจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ การไต่สวนพยาน นอกจากการพัฒนาบุคลากรโดยการศึกษาอบรมหลักสูตรดังกล่าวแล้ว กกต.ยังได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น การกำหนดมาตรการคุ้มครองพยาน การให้เงินรางวัลแก่ผู้ชี้ช่องเบาะแสในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำความผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมือง พร้อมทั้งได้มีการทำ MOU กับส่วนงานในกระบวนการยุติธรรม ในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อให้การดำเนินคดีเลือกตั้งได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้ได้มีการยกร่างระเบียบไว้แล้ว หากมีการประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว. กกต.ก็พร้อมที่จะปรับปรุงและประกาศใช้ระเบียบดังกล่าวได้ทันที จึงเป็นที่เชื่อมั่นได้ว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไป กกต.จะสามารถควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพสมดังเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
นายศุภชัย กล่าวปิดการอบรม ว่า งานสืบสวนและไต่สวนนับว่ามีความสำคัญต่อการป้องกันปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นภารกิจอีกประการหนึ่งของสำนักงาน กกต. การสืบสวนไต่สวนเป็นขบวนการที่มีความสำคัญต่อการสืบหาข้อเท็จจริงในคดีเลือกตั้ง เพื่อนำไปใช้ในการทำคำวินิจฉัยชี้ขาดของ กกต. เนื่องจากการพิจารณาสำนวนคดีเลือดตั้งของ กกต.จะต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งฝ่ายผู้ร้องและถูกผู้ร้อง ดังนั้นบุคลากรเกี่ยวข้องกับขบวนการสืบสวนและไต่สวนของสำนักงาน กกต.ต้องมีความรู้ในเรื่องกฎหมาย เทคนิค ทักษะในการสืบสวนและไต่สวน เพื่อจะได้รวบรวมพยานหลักฐานให้ กกต.วินิจฉัยได้ถูกต้องแม่นยำ และเป็นธรรม ทั้งนี้เชื่อว่าผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรนี้จะได้รับความรู้การสืบสวน ไต่สวน และประสบการณ์มากขึ้น
“หากผู้เข้าอบรมทุกคนได้รับการแต่งตั้วจาก กกต.ให้เป็นเจ้าพนักงานสืบสวนและไต่สวนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต. ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ไม่เห็นแก่สินจ้างใด ๆ ทำให้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เราคัดกรองคนดีมาบริหารประเทศ และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ และเป็นที่ยอมรับของศาล” นายศุภชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย