ไทยนำเสนอการประกันสุขภาพฯ ในเวที Cuba Health 2018

สธ.25เม.ย.-รมว.สาธารณสุขนำเสนอประสบการณ์และปัจจัยความสำเร็จ การประกันสุขภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ในเวทีประชุม Cuba Health 2018 พร้อมจับมือสาธารณรัฐคิวบาพัฒนายา ให้ประเทศกำลังพัฒนาพึ่งตนเองได้ด้านยาและเพื่อความมั่นคงของประเทศในระยะยาว


นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บรรยายในการประชุมวิชาการระดับนโยบาย “Cuba Health 2018” ที่สาธารณรัฐคิวบา เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ “การประกันสุขภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน” ใน 3 ประเด็นสาระสำคัญ  1.การประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นแรงหนุนสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าดังจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานของประเทศไทยที่สามารถป้องกันและลดการล้มละลายจากความเจ็บป่วย


2.ปัจจัยแห่งความสำเร็จของประเทศไทย ที่มีการพัฒนาระบบสุขภาพจนเป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก เกิดจากการอภิบาลระบบที่ดี  การมีความรู้สำหรับพัฒนาระบบและการควบคุมกำกับที่ดี การมีปัจจัยสนับสนุนและกำลังคนด้านสุขภาพที่เพียงพอ และการคลังสุขภาพที่ยั่งยืนทั้งสำหรับรัฐและประชาชนในระยะยาว เพียงพอสำหรับบริการพื้นฐานและป้องกันการล้มละลายจากสุขภาพ ยุติธรรมต่อผู้ร่ำรวยและผู้ที่ขาดแคลน และใช้เงินได้คุ้มค่า มีประสิทธิภาพ รวมทั้งปัจจัยสุดท้ายคือ การสนับสนุนจากระดับนโยบายและการที่สังคมร่วมเป็นเจ้าของ


3.เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 3.8 ประเทศต่างๆ จะต้องก้าวข้ามอุปสรรคไปให้ได้ มีการสนับสนุนระดับนโยบายและสนับสนุนบุคลากรที่มีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการประกันสุขภาพให้ทำงานต่อเนื่องในระยะยาว รวมทั้งการสร้างความเข้มแข็งของระบบสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานปฐมภูมิและการพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ และการสร้างการมีส่วนร่วมและการพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อติดตามความก้าวหน้า 

ทั้งนี้ ประเทศไทยและภาคีพันธมิตรจะได้ร่วมกันขับเคลื่อนการประกันสุขภาพสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนให้สำเร็จ โดยต้องมีการลงทุนในภาคสุขภาพมากขึ้น (more money for health)และต้องใช้ทรัพยากรด้านสุขภาพอย่างคุ้มค่า (more health for money) 

ภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารจากประเทศไทยได้ศึกษาดูงาน ณ Center for Genetic Engineering and Biotechnology (CIGB)และCenterfor Molecular Immunology (CIM) ทั้งสององค์กรเป็นหน่วยงานที่ใช้ความรู้นำเพื่อสร้างคุณค่าแก่ระบบสุขภาพ มีการพัฒนายารักษาโรคหลายชนิด เช่น มะเร็ง โรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง และการพัฒนาวัคซีน เทคโนโลยีของสาธารณรัฐคิวบา มีความก้าวหน้ามากและมีความร่วมมือกับประเทศไทยผ่านบริษัทร่วมทุน ระหว่างบริษัท Siam BioscienceและMolecular Immunology Center(ส่วนธุรกิจ) ซึ่งประเทศไทยได้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสาธารณรัฐคิวบาในการผลิตยา Erythropoietin และGCSF และทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือในระยะยาวเพื่อพัฒนายาที่จำเป็นอื่นๆ ต่อไป ด้วยวิสัยทัศน์คือการพัฒนายาเพื่อช่วยพัฒนางานด้านสุขภาพและประโยชน์ต่อสาธารณชน มุ่งหวังให้ประเทศกำลังพัฒนาพึ่งตนเองได้ด้านยาและเพื่อความมั่นคงของประเทศในระยะยาวต่อไป .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว