กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – กรมปศุสัตว์ประกาศลดพื้นที่เขตโรคระบาดพิษสุนัขบ้าชั่วคราวเหลือ 38 จังหวัด จาก 48 จังหวัด คาดสิ้นปีฉีดวัคซีนสุนัข-แมวตามเป้า
นายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงความก้าวหน้าในการควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า ว่า การฉีดวัคซีนให้แก่สุนัข-แมว ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและกรมปศุสัตว์ ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ 8.24 ล้านตัว ได้มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันที่ 17 เมษายน รวมทั้งสิ้น 4,046,533 ตัว โดยการฉีดวัคซีนรอบจุดเกิดโรคในรัศมี 5 กม.ได้ 100 % แล้ว และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีจะได้ตามเป้าหมาย
สำหรับการผ่าตัดทำหมันมีเป้าหมาย 300,000 ตัว มีการดำเนินการสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้ 163,967 ตัว และทำการอบรมอาสาปศุสัตว์ด้านโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งตั้งเป้า 17,500 คน มีผลงานสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จนถึงวันนี้ 40,508 คน ซึ่งเป็นอาสาจากท้องถิ่นละ 1-2 ราย ทำงานร่วมกับ อสม. นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ขึ้นทะเบียนสุนัขและแมว 7.3 ล้านตัว โดยยอดที่สำรวจสุนัข แมวปีที่ผ่านมามีประมาณ 10 ล้านตัว
ส่วนการประกาศเขตโรคระบาดสัตว์ช่วงมกราคม – 16 เมษายน 2561 มีการประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราว (อายุ 30 วัน) จำนวน 48 จังหวัด ปัจจุบันคงเหลือ 38 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ระยอง สมุทรปราการ นครราชสีมา ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุบลราชธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เชียงราย ตาก ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ตรัง นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี สงขลา สตูล ระนอง พิจิตร สมุทรสาคร ชัยภูมิ เพชรบุรี พะเยา นครพนม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และปทุมธานี
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมปศุสัตว์มีเหตุผลความจำเป็นในการประกาศเขตโรคระบาด เพื่อสามารถกำหนดพื้นที่ควบคุมในระยะ 5 กิโลเมตรรอบจุดเกิดโรค ทำให้สามารถระบุชนิดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ต้องควบคุมได้ทุกชนิด ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ตามประกาศเว้นแต่ได้รับอนุญาต และสัตวแพทย์สามารถสั่งดำเนินการกับสัตว์ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยหรือสงสัยว่าเป็นพาหะของโรคระบาดได้ทันที .-สำนักข่าวไทย