กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – ผู้ว่าฯ ธปท.เผยจับตาผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐ-จีน แม้กระทบไทยไม่มาก ยืนยันไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย ( ธปท.) กล่าวในงานสัมมนา The Symbol of your Visionary : ก้าวทันเศรษฐกิจ ก้าวนำการลงทุน ปี 2018 ของธนาคารกสิกรไทย ว่า ต้องจับตาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เพราะแม้จะมีผลกระทบต่อประเทศไทยไม่มาก เนื่องจากเหล็ก อลูมิเนียมและเครื่องซักผ้ามีสัดส่วนการส่งออกไปสหรัฐค่อนข้างน้อย แต่จะมีผลกระทบทางอ้อม เพราะอาจจะมีสินค้าจากประเทศที่ถูกกีดกันทางการค้าเข้ามาแย่งตลาดอาเซียนกับไทยและกระทบต่อผู้ผลิตของไทย ขณะเดียวกันถือเป็นโอกาสของผู้ส่งออกไทยเช่นกันที่จะสามารถส่งออกเพิ่มขึ้นไปจีนและสหรัฐ ซึ่งมีข้อพิพาทกันอยู่
“สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน หากมีความรุนแรงมากขึ้น ย่อมมีผลกระทบต่อการค้าโลก ส่วนผลกระทบต่อไทยมีทั้งทางบวกและลบ และจะมีผลต่อสภาวะการลงทุนโดยตรงและการลงทุนในตลาดโลกให้มีความผันผวนได้ ซึ่งยังเป็นความเสี่ยงที่ประเมินได้ยาก” นายวิรไท กล่าว
ส่วนกรณีที่สหรัฐจับตาไทยเป็นประเทศที่แทรกแซงค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการค้านั้น ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ได้มีการทำหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงการคลังของสหรัฐแล้วว่าไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า การดูแลค่าเงินบาท เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศและเพื่อให้เอกชนสามารถปรับตัวได้ทัน เพราะบางช่วงเวลามีเงินทุนไหลเข้ามาในไทยจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้จะชี้แจงสหรัฐอย่างต่อเนื่องก็ยังต้องติดตามรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐอีกครั้ง ซึ่งที่ผ่านมาไทยเป็นพันธมิตรกับสหรัฐมานานทั้งด้านความสัมพันธ์การค้าและการลงทุน
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) ได้ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้โตร้อยละ 4.1 จากเดิมร้อยละ 3.9 เนื่องจากส่งออกขยายตัวดี การท่องเที่ยวเติบโต แต่การดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างจำเป็นต้องผ่อนคลาย เพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดและเอสเอ็มอียังไม่ได้เติบโตมากเท่ากับตัวเลขเศรษฐกิจมหภาค
ด้านนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวร้อยละ 4 แต่เศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะจากปัจจัยนอกประเทศ ทั้งการกีดกันทางการค้าของสหรัฐกับจีน รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ. – สำนักข่าวไทย