“ศิริกัญญา” ท้ารัฐบาลแจก 20,000 ใกล้เลือกตั้ง ยังไงก็ได้ “นายกฯ เท้ง”

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ศิริกัญญา” ท้ารัฐบาลแจก 20,000 ใกล้เลือกตั้ง ยังไงก็ได้ “นายกฯ เท้ง” ซัดจัดงบไม่รับมือสงครามการค้า-ไม่ตอบโจทย์วิกฤติเศรษฐกิจ ลั่นอย่านำ ปชน.ไปเป็นตัวประกันศึกภายในพรรคร่วมฯ แนะเลื่อนจัดซื้อเรือฟริเกตไปปี 70

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวสรุปปิดการอภิปรายเป็นคนสุดท้ายว่า ตลอด 4 วันของการอภิปราย ตนได้ยินคำว่ากาลเทสะหลายครั้ง แต่ปัญหาตอนนี้เป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ซึ่งรัฐบาลพยายามจะบอกว่างบประมาณ 3.78 ล้านบาท มันน้อย เงินที่อื่นมาเยอะ ซึ่งถูกต้อง เพราะงบประมาณจึงต้องใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด เราจึงต้องหาเงินมาช่วย แต่ไม่ว่าหาเท่าไรก็เหมือนถังที่มีรูรั่ว เพราะมีการคอร์รัปชั่น เลยต้องอภิปรายตัดงบประมาณที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดคอร์รัปชั่นเพื่อลดโอกาส แล้วเห็นใดจะพูดไม่ได้ งงอะไรกันเหตุใดจึงสับสนว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในเมื่อไม่มีการพูดรัฐมนตรีสักคำ


นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องพูดสภาพเศรษฐกิจ เพราะประชาชนพูดให้หมดแล้วว่ามันเยอะมากแค่ไหน และอย่าคิดว่าสงครามการค้าจะจบง่ายๆ เพราะศาลอุทธรณ์ได้สั่งเบรกการระงับการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐไปแล้ว และทรัมป์ ก็น่าจะมีไพ่อีกหลายใบเรื่องนี้ จึงไม่น่าจะจบง่ายๆ ดังนั้นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของไทยที่อาจเกิดขึ้นในปีนี้ คือ เศรษฐกิจอาจโตขึ้นแค่ 1.3% และเหลือแค่ 1% ในปี2569 ซึ่งแม้ว่าสงครามการค้าจะดีขึ้นแต่ไทยก็ต้องเจอกับพายุหมุนทางสภาวะเศรษฐกิจภายนอกเข้ามากระแทกในขณะที่เศรษฐกิจภายในก็อ่อนแอ โดยก่อนที่จะมีการพิจารณาในวันนี้ ตนเตือนให้รัฐบาลกลับไปทำงบประมาณใหม่ แต่รัฐบาลอ้างว่าทำไม่ทัน ทั้งที่ในปี 2567 รื้อ 2 รอบ และปี2568 รื้ออีก 2 รอบ เพื่อเบ่งงบประมาณมาทำโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แต่ปีนี้วิกฤตมารอตรงหน้ากลับไม่ทำ เป็นวิธีที่ชาญฉลาด พอไม่ใช่ดิจิทัลวอลเล็ต งานก็ไม่เดินเลย ซึ่งสภาก็ไม่มีสิทธิเพิ่มโครงการใหม่หรือแก้ไขอะไรได้แล้ว แต่เมื่อดูในงบกลางที่ยืดหยุนมากที่สุดและมีงบฯสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ แต่ปี 2569 มีวงเงิน 25,000 ล้านบาท ลดลงกว่าปี 2568 ที่มีวงเงิน 187,7000 ล้านบาท จึงไม่เข้าใจว่ายืดหยุ่นแบบไหนถ้าไม่มีโครงการมารองรับ แต่เหมือนปล่อยผี ให้หน่วยงานโยกงบฯไปใช้ได้ง่ายๆ ใช่หรือไม่ ซึ่งงบประมาณแบบนี้จะทำให้สภาตรวจสอบไม่ได้

ทั้งนี้นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวว่า งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐมนตรีไม่เคยพูดถึง แต่จะพบว่ามีโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท โครงการโปรดของตน ที่คงมาแน่ในปี 2569 แต่มีเงินแจกแค่ 25,000 ล้านบาท ต้องมาลุ้นกันใครจะเป็นผู้โชคดี ลุ้นยิ่งกว่าหวยว่าจะเป็นกลุ่มเยาวชน 16-20 ปี คนทำงานอายุ 21-25 ปี หรือจะเป็นคนใกล้เกษียณ 55-59 ปี แต่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ยืนยันให้แจกเลย ไม่งั้นได้ “นายกฯเท้ง” แน่ แต่ถ้าแจกอย่างนี้ต่อให้ใกล้เลือกตั้ง แจกคนละ 20,000 บาท ก็ยังได้นายกฯเท้งเหมือนเดิม นอกจากนี้ยังมีการจัดงบประมาณตุ้นเศรษฐกิจให้ อปท. โดยเฉพาะงบฯ รายจังหวัด ของบฯทำเอไอจำนวนมาก เช่น จังหวัดเชียงราย ได้งบฯ กว่า 1,000 ล้านบาท แต่เป็นงบฯทำเอไอ กว่า 800 ล้านบาท ที่ตลกที่สุดคือคนที่ขอคือ พลังงานจังหวัดเชียงราย ของบฯทำเอไอจัดการจราจร จัดการภัยพิบัติ โดยไม่ได้เกี่ยวกับพลังงานเลย เมื่อเห็นฝีมือกระตุ้นเศรษฐกิจแบบนี้ชักเริ่มไม่อยากช่วยหาเงินแล้ว


นอกจากนี้นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึงการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นการจัดแบบย้อนยุค จัดเหมือนเดิมเปะเหมือน 10 ปี ที่แล้ว ไม่มีการเตรียมล่วงหน้าเผื่อราคาผลผลิตตก หรือ สินค้าล้นตลาด พอราคาตกก็ใช้งบฯกลาง หรือ กู้ ธกส. พอตั้งงบฯใหม่ ก็มีแต่งบฯใช้หนี้ เป็นอย่างนี้มาหลายยุค ซึ่งรัฐบาลบอกว่ายังไม่ได้เริ่มใช้งบฯ ธกส. ก็เพราะราคาสินค้าเกษตรมันดี แต่ทำนายได้เลยว่าเดี๋ยวต้องกลับไปใช้อีกแน่ เพราะราคาข้าวกลับไปเท่ามาม่า ราคามันจะเหลือไม่ถึง 1 บาท ราคาอ้อยและปาล์มก็ล่วงต่อเนื่อง ในขณะที่งบฯสิ่งแวดล้อมก็ไม่มีการเตรียมความพร้อมรับมือมลพิษ ขยะ ภัยพิบัติ มีแต่ชดเชย ถ้ายังใช้แต่การชดเชยแบบนี้โดยไม่มีการป้องกันในอนาคต ไม่เกิน 10 ปี งบประมาณต้องไม่มีเพียงพอเยียวยาอย่างแน่นอน

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดในงบฯ ปี 69 คือ รายจ่ายประจำ เรื่องโกหกอะไรกัน ที่บอกว่ารายจ่ายประจำน้อยที่สุดในรอบ 18 ปี แต่ความจริงแล้วเป็นการตัดรายจ่ายประจำ ให้ไปไม่ครบ งบฯชำระดอกเบี้ยขาดไป 65,000 ล้านบาท งบฯบำนาญ ขาด 51,000 ล้านบาท ตั้งงบฯค่ารักษาพยาบาลไม่เพียงพอ และในขณะที่กองทุนประชารัฐ ลดเหลือ 3 หมื่นล้านบาท ไม่รู้ว่าจะมีการตัดลดงบฯบัตรคนจนหรือไม่ จึงเป็นการทำตัวเลขให้ดูดี ซึ่งทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว โดยในปี2567 ต้องไปเอางบฯคงคลังออกมาใช้จ่ายบำนาญ 42,000 ล้านบาท จ่ายค่ารักษาพยาบาล 24,000 ล้านบาท และเงินเดือนค่าราชการ 17,000 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ย 40,000 ล้านบาท รวมเป็น 120,000 ล้านบาท ปี 2569 จึงต้องตั้งงบฯ ชดเชย และปีนี้ก็ตั้งใจตั้งงบฯให้ไม่พอเพื่อให้ตัวเลขดูดี เพื่อหางบฯมาเพื่อทีหลัง จะทำไปเพื่อ

นางสาวศิริกัญญา กล่าวถึงการจัดซื้อเรือฟริเกต โดยยืนยันว่า เข้าใจถึงความจำเป็นที่จะต้องมีเรือฟริเกตอีก 1 ลำ ทั้งที่ในปี 2567 พรรคฝ่ายค้าน สนับสนุนให้มีการจัดซื้อ เพราะจะได้ทั้งเทคโนโลยีต่อเรือ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่รัฐบาลกลับปฏิเสธ ดังนั้น หากในปีนี้ เลื่อนออกไปก่อน เพื่อปีหน้าให้ได้ 2 ลำ และเศรษฐกิจในปี 2570 อาจจะดีขึ้น น่าจะมีประโยชน์มากขึ้น และเป็นการจัดซื้อแบบมียุทธศาสตร์ ที่จะสามารถเกิดการลงทุนในประเทศ ทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน


นางสาวศิริกัญญา ยังเห็นว่า ในปีงบประมาณ 2564 ประเทศเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 และรัฐบาลในขณะนั้น ไม่ได้จัดงบเพื่อตอบโจทย์วิกฤตโควิด-19 ซึ่งความรู้สึกในวันนั้น ไม่ได้ต่างจากวันนี้ ที่จะต้องรื้องบประมาณใหม่หมด ซึ่งจะสะท้อนว่า รัฐบาลหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศ หรือต้องยุบสภา แต่ตนเอง ก็ได้เรียนรู้การเมืองแห่งความเป็นจริงว่า ไม่มีนายกรัฐมนตรีคนใด จะยุบสภาในความนิยมย่ำแย่ เว้นแต่จะมีศึกภายในจากพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง พร้อมขออย่างนำพรรคประชาชน ไปเป็นตัวประกันระหว่างการทะเลาะกัน 2 พรรค พร้อมมั่นใจว่า ร่างงบประมาณ เมื่อเข้าสู่การพิจารณาในชั้นกรรมาธิการแล้ว คงเปลี่ยนอะไรไม่ได้มาก แต่ฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่ต่อไป และตรวจสอบงบประมาณอย่างเต็มที่ ลด เลิก เลื่อนโครงการที่ไม่จำเป็น ไม่สำคัญ เพื่อให้สมศักดิ์ศรีฝ่ายค้าน.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” โพสต์พรรคร่วมฯ มีมติหนุนรัฐบาล ร่วมสร้างเสถียรภาพการเมือง

โรงแรมโรสวูด 22 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์พรรคร่วมรัฐบาลมีมติหนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง ชี้ ความเป็นหนึ่งเดียว ช่วยก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหว เดินหน้ารับมือภัยคุกคามและความมั่นคง ภายหลัง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญพรรคร่วมรัฐบาล หารือ ปรับคณะรัฐมนตรี แทนตำแหน่งที่ว่าง 8 ตำแหน่ง หลังภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยใช้เวลาในการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. รถบรรดาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลและเลขาธิการพรรคได้เดินทางออกจากโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ ขณะที่ นายกรัฐมนตรีได้ ยังอยู่ภายในโรงแรม ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี จะโพสต์ภาพถ่ายผ่านโซเชียลร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า สามัคคีประเทศไทย รวมพลังผลักดันนโยบาย แก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกท่าน ที่มีมติและประกาศแนวทางสนับสนุนรัฐบาล ร่วมกันสร้างเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อรับมือต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติจากภายนอก และขับเคลื่อนนโยบายแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลกับกองทัพมีจุดยืนร่วมกัน ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและรวมพลังสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวของพรรคร่วมรัฐบาล จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการผนึกกำลังกันของคนไทย ก้าวผ่านสถานการณ์อ่อนไหวนี้ด้วยความมั่นคง และประสบผลสำเร็จในการปกป้องอธิปไตย ธำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีของประเทศชาติและประชาชน ดิฉันเชื่อมั่นว่าไม่มีภัยคุกคามใดจะเหนือกว่าพลังสามัคคีของคนไทย […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

จับตานายกฯ นัดคุยหัวหน้าพรรคร่วม ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – จับตานายกฯ เชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน คาดจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม ความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรายงานว่า วันนี้ (22 มิ.ย.68) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลที่เหลืออยู่หารือเป็นการภายใน ภายหลังพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะมีการพูดคุยเกลี่ยโควตาเพิ่มให้กับพรรคร่วมรัฐบาลตามความเหมาะสม โดยเมื่อเวลา 12.26 น. รถยนต์ของนายกรัฐมนตรีได้เลี้ยวเข้าโรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ.-316-สำนักข่าวไทย

“ฮุน มาเนต” สั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ไทยปิดด่านช่องสายตะกู

22 มิ.ย.- “ฮุน มาเนต” นายกฯ กัมพูชา ออกคำสั่งปิดด่าน 2 แห่ง ตอบโต้ทางการไทยปิดด่าน “ช่องสายตะกู” เมื่อเวลา 07.00 น. “ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โพสต์หนังสือคำสั่ง โดยระบุว่า ให้ปิดด่านบ้านจุ๊บโกกี อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย จนกว่าไทยจะเปิดด่านช่องสายตะกู พร้อมระบุว่า เมื่อคืนวานนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ได้รับแจ้งจากกองทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่า จะมีการปิดด่านชายแดนช่องสายตะกูอย่างไม่มีกำหนด นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชา ยังได้อนุมัติให้ปิดด่านช่องจวม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และจะแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ของไทย รับทราบ สำหรับคำสั่งปิด 2 ด่านดังกล่าว เป็นจุดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด่านช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ -สำนักข่าวไทย