สปส.แจ้งสิทธิการรักษาที่ผู้ประกันตนควรรู้ ก่อนเดินทาง

ประกันสังคม 2 เม.ย.-สปส.แจงสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือประสบอุบัติเหตุช่วงเทศกาล ให้เข้ารักษาใน รพ.ใกล้ที่เกิดเหตุได้ทุกที่ทันที ไม่ต้องกังวลค่ารักษาหากอยู่ใน 72 ชั่วโมงแรก ไม่ต้องสำรองจ่าย ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวยื่นรับสิทธิการรักษาได้  


นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีผู้ประกันตนเจ็บป่วยฉุกเฉิน หรือประสบอุบัติเหตุระหว่างการเดินทางในช่วงเทศกาลวันหยุด ว่า ขอให้ผู้ประกันตนอย่าได้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาที่อาจเกิดขึ้น หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือได้รับอุบัติเหตุ หรือมีอาการเจ็บป่วยกะทันหัน ลูกจ้าง ผู้ประกันตน สามารถเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยสำนักงานประกันสังคม จะพิจารณาจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ภายใน 72 ชั่วโมง ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่กำหนด โดยให้ผู้ประกันตนหรือโรงพยาบาลที่ให้รักษา และผู้เกี่ยวข้อง แจ้งสถานพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกไว้ทราบโดยเร็ว ตั้งแต่เข้ารับการรักษาเพื่อให้รับผิดชอบค่าบริการทางการแพทย์ให้กับผู้ประกันตน


เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวต่อไปว่า จากนโยบายรัฐบาลและกระทรวงแรงงาน ที่มีนโยบายให้ประชาชนทุกคนได้รับบริการด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็วและเป็นธรรมตามสิทธิของผู้ป่วย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) รวมทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ได้ร่วมบูรณาการความร่วมมือ ในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ 3 กองทุนทั้งระบบกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กองทุนประกันสังคม และกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วยการรักษากรณีผู้ป่วยฉุกเฉินที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูง โดยผู้ป่วยสามารถเข้ารับบริการจากโรงพยาบาลทุกแห่งทั้งภาครัฐและเอกชน โดยไม่ถูกทวงถามสิทธิก่อนรักษา ไม่ต้องสำรองค่ารักษา ไม่ถูกบ่ายเบี่ยงการรักษา และได้รับการดูแลรักษาจนกว่าอาการจะทุเลา ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจในระบบบริการทางการแพทย์ของสำนักงานประกันสังคมว่าทุกคนจะได้รับการบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างรวดเร็ว มีคุณภาพเท่าเทียมกัน 


ทั้งนี้ หากผู้ประกันตนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับสิทธิการรักษาสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 1506 พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง   .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม