สส.ปชน.ชี้รัฐบาลต้องกู้วิกฤติประกันสังคม-จัดทำระบบตรวจสอบให้โปร่งใส

รัฐสภา 31 พ.ค. – “สหัสวัต” ชี้รัฐบาลต้องกู้วิกฤติสำนักงานประกันสังคม เริ่มจากการใช้หนี้คืนกองทุน-แก้กฎหมายปรับโครงสร้างบอร์ดกองทุนประกันสังคม ให้ยึดโยงกับผู้ประกันตน และจัดทำระบบตรวจสอบให้โปร่งใส ปิดช่องไม่ให้พวกปรสิตสูบโกงกินเงิน


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 โดยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายงบสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ที่ได้รับการจัดสรรงบในกระทรวง 68,069 ล้านบาท และเป็นงบประมาณของสำนักงานประกันสังคม 61,666 ล้านบาท หรือ 90% แม้จะเป็นงบประมาณจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถจ่ายดูแลผู้ประกันตนได้อย่างเพียงพอในอนาคต และการวิพากษ์ว่ากองทุนประกันสังคมวิกฤติเสี่ยงร่มในช่วง 25-30 ปี ที่หมายถึงบุคคลที่ส่งประกันสังคมไป แต่อาจไม่ได้รับสิทธิในการรักษาในช่วงวัยเกษียณ

“เราอยู่ในวิกฤติที่อีก 30 ปี ประชาชนคนไทยจะเจ็บป่วยไม่ได้ ตกงานไม่ได้ หยุดทำงานไม่ได้ เพราะหยุดเมื่อไรจะลบทันทีแบบไม่มีโอกาสลุก แม้แต่รัฐมนตรีพิพัฒน์ได้พูดว่ากองทุนประกันสังคมเสี่ยงล้มละลายภายใน 30 ปี จนมีการสรุปว่ารายรับไม่สัมพันธ์กับรายจ่ายในอนาคต และมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา 4 ข้อ ขยายอายุการเกษียณ กำหนดเพิ่มอัตราสมทบระยะสั้น ขยายเพดานค่าจ้าง ร่วมมือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง”


นายสหัสวัต ชี้ว่าหากรัฐบาลต้องการกู้วิกฤติประกันสังคม ต้องเริ่มจากตัวเอง จากการใช้หนี้กองทุนประกันสังคม หนี้ที่ติดผู้ประกันตนทั้งประเทศ ซึ่งจากข้อมูลที่มีรัฐบาลติดหนี้ตั้งแต่ปี 2534-2539 ค้างชำระกว่า 1 แสนล้านบาท เนื่องจากในอดีตมีงบประมาณก้อนหนึ่ง หรืองบประมาณพัฒนาจังหวัด หรืองบ สส. ที่จะเห็นป้ายตามศาลาพักร้อนหรือสะพานว่าจัดสรรโดย สส.คนนั้นคนนี้ เงินผู้ประกันตนของคนทั้งประเทศโดนล้วงเอาไปใช้เอาหน้า โดยที่ผู้ที่ส่งเงินสมทบเป็นผู้เสียประโยชน์ เพียงพอต้องตัดเอาไปให้ สส. ที่อยากมีหน้ามีตาเอาเงินไปสร้างถนนสร้างสะพาน แต่ความซวยตกอยู่กับผู้ประกันตน ซึ่งขณะนี้รัฐบาลค้างจ่ายเงินเงินประกันสังคมอยู่ที่ 56,000 ล้านบาท และทุกปีที่รัฐเบี้ยวหนี้คือการขโมยเงินในอนาคตของผู้ประกันตน เสียโอกาสในการลงทุนออกดอกผลให้มาเป็นสิทธิประโยชน์ประชาชน

พร้อมกันนี้ได้คำนวณเงินค้างจ่ายของรัฐบาลต่อประกันสังคม ในเรทอัตราดอกเบี้ยเดียวกันกับการเก็บผู้ประกอบการ จะทำให้มีค่าปรับและค่าเสียโอกาสจากการค้างจ่ายสมทบของรัฐบาลอยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งสามารถยืดอายุกองทุนได้อย่างน้อย 4 ปี ก่อนจะเรียกร้องให้รัฐบาลกลางใช้หนี้อย่างจริงจัง เพราะขณะนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่นในกองทุน เนื่องจากปัญหาความโปร่งใส

“จะใช้ให้หมดภายในกี่ปี จ่ายดอกปีละเท่าไร ทำจริงจังออกมา หยุดเอาเปรียบลูกจ้างนายจ้าง หวังว่าจะได้เห็นแผนใช้หนี้นี้ในปีหน้า ยังนับว่าเริ่มแรกหลักประกันสังคมคือการสมทบ 3 ฝ่าย ผู้ประกันตน นายจ้าง จ่ายคนละ 5% แต่รัฐจ่ายเพียง 2.75% แบบนี้จ่ายน้อยที่สุด เอาเปรียบตั้งแต่ต้นไม่พอยังค้างจ่าย แบบไม่มีค่าปรับดอกเบี้ยอะไร นี่เอาเปรียบทั้งคนทำงานและนายจ้าง แบบนี้ก็เจ๊งสิ”


นายสหัสวัต กล่าวต่อว่า แม้แต่ตึก Skyy9 บอร์ดประกันสังคมยังไม่เคยรู้ว่าเป็นการลงทุน เพราะกฎระเบียบเปิดช่องว่างให้มีการแต่งตั้งอนุฯ ชงให้กองทุนซื้อของมูลค่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งความไม่โปร่งใส ส่งผลต่อความไม่มีประสิทธิภาพ ผ่านผลตอบแทนการลงทุน ซึ่งกองทุนประกันสังคมในช่วง 10 ปี เติบโตปีละ 3% หากเปรียบเทียบกับกองทุนในประเทศอื่น โต 5% ซึ่งแม้จะห่าง 2% แต่คือเงินนับ 100,000 ล้านบาท

พร้อมกันนี้กล่าวถึงการใช้งบประมาณในสำนักงานประกันสังคม ที่รับการจัดสรรงบ 937 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ 880 ล้านบาท คือเงินใช้จ่ายบุคลากรและอีก 54 ล้านเป็นงบที่ใช้ดำเนินงาน โดยยังมีเงินนอกงบประมาณ ใช้เงินสมทบของผู้ ประกันตน ซึ่งตามกฎหมายสามารถใช้ได้ 10% ของเงินสมทบ แม้สำนักงานจะบอกว่าใช้เพียง 3% แต่สูงถึงปีละ 6000 ล้านบาท ที่ไม่ต้องผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรและตรวจสอบไม่ได้ เมื่อย้อนไปดูใช้เงินของสำนักงานประกันสังคม จะเห็นว่ามีการตั้งคำถามว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตนอย่างไร

“ไม่ว่าจะเป็นการทำปฏิทินปีละกว่า 50 ล้านบาท ที่ผู้ประกันตนส่วนใหญ่ไม่มีใครเคยได้ ไม่รู้แต่ไปทำไมหรือกรณีที่ผมเพิ่งเปิดเผยไม่นานมานี้คือการซื้อรถของประกันสังคม ซึ่งไม่ได้มีความจำเป็น แต่มันคือการเอาเงินสี่ล้านบาทของผู้ประกันตนไปซื้อรถหรู เขียนโครงการด้วยความสวยหรือว่ารถสนับสนุนภารกิจของกระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคม แต่ที่จริงคือเอารถไปใช้ประจำตำแหน่ง”

นายสหัสวัต กล่าวว่า ให้ตัดการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายออกไปและขยายสิทธิให้ผู้ประกันตนสามารถไปถึงไหนต่อไหนแล้ว พร้อมทักท้วงเรื่องการให้บริการประชาชนเรื่องสายด่วน 1506 ที่ไม่สามารถติดต่อได้ เพราะสำนักงานมีการไปจ้างบริษัทนอกมาดำเนินการ ซึ่งไม่ได้มีความเชี่ยวชาญเข้าใจข้อมูลของประกันสังคม ซึ่งใช้งบประมาณในส่วนนี้ปีละกว่า 100 ล้านบาท เป็นระยะ 10 ปีก็เป็นมูลค่า 1000 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงงบที่เกี่ยวกับระบบไอทีของสำนักงานสำนักงานประกันสังคม วงเงินปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และใช้มานานเป็นระยะ 10 ปี หมดไปนับ 10,000 ล้านบาท กับการทำแอปพลิเคชันที่ไม่สามารถบริการประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิ ก่อนที่จะเสนอแนะให้ปรับเปลี่ยนงบในส่วนนี้ไปสนับสนุนด้านบุคลากรเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

พร้อมกันนี้กล่าวถึงการปฏิรูปโครงสร้างสำนักงานประกันสังคมทั้งหมด โดยผู้มีอำนาจในการตัดสินใจมีไม่กี่คน ที่ทำงานภายใต้อำนาจของนักการเมือง ซึ่งข้าราชการในกระทรวงไม่เคยจ่ายเงินสมทบ แต่ไปคิดแทนผู้ประกันตน เป็นการเปิดช่องโหว่ให้นักการเมืองฉ้อฉล และข้าราชการน้ำเสียรวมหัวคอร์รัปชันสูบกินเงินของผู้ประกันตน อย่าว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะยกเครื่องพระราชบัญญัติประกันสังคม

“โดยแก้หลักการว่ากองทุนประกันสังคมต้องยึดโยงกับนายจ้างและผู้ประกันตนให้มากที่สุดผ่านการเลือกตั้ง คนบริหารต้องมาจาก 3 ฝ่ายอย่างแท้จริง ไม่ใช่รัฐที่จ่ายน้อยที่สุดแต่มีอำนาจสูงสุด และต้องมีกลไกตรวจสอบได้ตลอดเวลา ปิดโอกาสปิดช่องไม่ให้พวกปรสิตมาสูบโกงกินเงินของพวกเราที่ทำงานอย่างหนัก ส่งเงินเข้ากองทุนนี้เพื่อหวังจะมีเบาะรองในชีวิต”

ทั้งนี้ นายสหัสวัต ได้เสนอกู้วิกฤติประกันสังคม คือการใช้หนี้ ทำให้โปร่งใส ปฏิรูปโครงสร้าง.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]