fbpx

รมว.ศธ.ย้ำสอบโกงกองทุนเสมาฯไม่มีมวยล้ม สรุปผลก่อนสงกรานต์

ก.ศึกษา 30 มี.ค.-รมว.ศธ.เผย สืบข้อเท็จจริงกองทุนเสมาฯคืบหน้ามาก ย้ำไม่มวยล้มต้มคนดู  ด้านปลัดเเจงเเค่เห็นชอบกองทุนไม่ได้อนุมัติ


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสืบสวนข้อเท็จจริงทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตว่า ขณะนี้คณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงที่มีนายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกำลังเร่งทำงาน ซึ่งมีความคืบหน้าไปมาก เเต่ต้องให้เวลาเพราะเรื่องมีรายละเอียดเพราะมีการทุจริตต่อเนื่องหลายปี อย่างไรก็ตามจะสรุปผลสืบข้อเท็จจริงได้ก่อนสงกรานต์นี้อย่างแน่นอน ยืนยันไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน


ด้านนายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า หลังที่ประชุมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีมติเป็นเอกฉันท์ไล่ออกนางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษาระดับ 8 ออกจากราชการ หลังยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการทุจริตเงินกองเสมาพัฒนาชีวิต สำนักปลัดศธ.ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปส่งหนังสือมติดังกล่าวให้นางรจนาทราบ เเต่นางรจนาไม่ลงมารับเอกสาร จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ทำหนังสือเเจ้งมติดังกล่าวไปทางไปรษณีย์ หากครบ 15 วันนับตั้งเเต่วันที่ส่งหนังสือ หากนางรจนาไม่โต้เเย้งหรือยื่นอุทธรณ์ ก็ถือว่านางรจนาได้รับทราบมติโดยสมบูรณ์เเล้ว

ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนข้อเท็จจริง ทราบว่าขณะนี้ได้มีการเรียกให้อดีตปลัดเเละรองปลัดกระทรวงศึกษาธิการเเละข้าราชการที่อยู่ในเส้นทางการเงินมาสอบเเละให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งตนก็ได้ทำหนังสือชี้เเจงในส่วนของตน หลังพบว่าในปี 2561 มีการโอนเงินของกองทุนไปแล้วกว่า 3 ล้านบาทเเละพบว่าเป็นมีการทุจริตทั้งหมดนั้น ว่าตนเซ็นต์เห็นชอบโครงการ เเต่สำนักอำนวยการเป็นผู้อนุมัติ ถึงอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่ความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดเพื่อดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนั้น อยู่ระหว่างให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการพิจารณารายละเอียดการอนุมัติตั้งคณะกรรมการ.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย