ตรวจค้นบ้าน ขรก.ซี 8 ศธ.โกงเงินกองทุนเสมาฯ เสร็จสิ้น

กรุงเทพฯ 23 มี.ค.-ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นบ้านพักข้าราชการซี8 ศธ.ทุจริตเงินกองทุนเสมาฯยุติลงแล้ว พบเอกสารกองทุนตั้งแต่ปี 40 ฉีดขาดซุกซ่อนเตรียมทำลายหลักฐาน ซึ่งคาดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้


ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วง 07.00 น.ทีมข่าวสำนักไทย ได้เข้าติดตามการตรวจค้นบ้านทาวเฮาส์ 2ชั้น 2 หลังติดกันบ้านเลขที่ 310/926 และ 310/927  ซึ่งเป็นของนางรจนา สินที ข้าราชการซี 8 กระทรวงศึกษาธิการ และบุตรชาย พื้นที่ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง หลังรับสารภาพว่าโกงเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยชุดปฏิบัติการอนุคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) , สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)  ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) , สน.ดอนเมือง  กว่า 20 คน เดินทางมาพร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้น โดยตัวบ้านมีการนำผ้าม่านและผ่านสังกะสีปิดซ้อนกับประตูรั้วอย่างมิดชิด โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น และชี้แจงวัตถุประสงค์กับนางรจนานานกว่า 20 นาที โดยนางรจนาได้โทรศัพท์หารือกับทนายความก่อนอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ที่มีรายชื่อในหมายค้น เข้าในบ้านเพื่อตรวจค้นเก็บหลักฐานเท่านั้น


เบื้องต้นจากการตรวจค้นบ้านพักนางรจนา นานเกือบ 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่

พบเอกสารและสมุดบัญชีธนาคาร ส่วนในรถยนต์ที่มีผ้าคลุมจอดไว้หน้าบ้านพบแฟ้มเอกสารกองทุนเสมาฯ ตั้งแต่ปี 2540 และเอกสารสำคัญถูกฉีกทำลายซุกซ่อนอยู่ในถุงขยะ 2 ถุงใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าอยู่ระหว่างเตรียมทำลายหลักฐาน โดยนางรจนายอมรับว่าเป็นเอกสารโครงการจริงและเตรียมไปทำลายหลักฐาน 


นอกจากนี้ยังพบสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยโดยเอกสารหลักฐานทั้งหมดจะนำไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป

ภาพรวมจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้ข้อมูลว่า หลักฐานที่พบถือว่าเป็นประโยชน์ในทางคดีทั้งหมด แม้จะเป็นเอกสารเก่าตั้งแต่ปี  2540 แต่ทางคดีพบการทุจริตตั้งแต่ปี 2551 หากตรวจพบว่าเกี่ยวข้องก็สามารถเอาผิดย้อนหลังได้เช่นกัน ส่วนนางรจนาในวันนี้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และเร็ววันนี้คงจะต้องมีการเรียกนางรจนาเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย

สำหรับคดีนี้ เจ้หน้าที่กระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบพบว่า นางรจนา ได้เบียดบังเงินกองทุนเสมาฯ เข้าบัญชีเครือญาติก่อนหมุนเงินกลับเข้าบัญชีตัวเอง ตั้งแต่ปี 2551จนถึงปี 2561 รวม10 ปี งบประมาณรวม 176 ล้านบาท โดยนางรจนา ยักยอกโกงเงินไปถึงสูงกว่า 88 ล้านบาท 

โดยนางรจนา รับสารภาพ ว่ากระทำเพียงคนเดียว และมีเหตุต้องสงสัยว่าเป็นเพียงข้าราชการระดับ8 แต่สามารถใช้ช่องว่างทุจริตอย่างต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี สร้างความเสียหายให้กับระบบราชการสูงเกือบ 100 ล้านบาท  ขณะที่สภาพบ้านพักค่อนข้างทรุดโทรม จึงเป็นประเด็นต้องสงสัยถึงเส้นทางการเงิน 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทยอยนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดที่เจอในบ้านทั้ง 2 หลังกลับไปตรวจสอบที่ ป.ป.ท.แล้ว ส่วนนางรจนา เจ้าหน้าที่ ได้ให้เซ็นต์เอกสารรับทราบการเข้าตรวจค้น โดยที่ไม่ได้ออกมานอกตัวบ้าน ส่วนจะเรียกนางรจนาให้ปากคำเมื่อใดนั้น เจ้าหน้าที่ระบุต้องรอความชัดเจน

ของพยานหลักฐานอีกครั้ง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้