fbpx

คืบสอบทุจริตกองทุนเสมาฯพบข้อมูลป.ป.ท.เคยแจ้งศธ.ตั้งแต่ปี57

ก.ศึกษา 26 มี.ค.- คืบสอบข้อเท็จจริงทุจริตกองทุนเสมาฯ พบข้อมูล ป.ป.ท.เคยแจ้งศธ.ตั้งแต่ปี 57  กำลังประสานข้อมูลเพิ่มเติมจากป.ป.ท. เพื่อเรียกสอบข้าราชการที่เกี่ยวข้อง 4 รายเร็วๆนี้


นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตเปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า ล่าสุดได้ตรวจพบหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)ได้ส่งให้กระทรวงศึกษาธิการเมื่อปี 2557 ชี้เเจงกรณีวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีร้องเรียนว่า สถาบันยังไม่ได้รับเงินจากกองทุนเสมาพัฒนาชีวิตของปี 2554 และ 2555 โดยปลัดกระทรวงศึกษาธิการสมัยนั้นได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องคือนางรจนา สินที นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา ระดับ 8 ที่ยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการทุจริตชี้เเจงไปยังป.ป.ท.ภายใน 15 วันโดยได้ชี้แจงไปว่า เงินถูกโอนไปแล้วตั้งแต่ ปี 2556 ขณะที่ยังพบข้อมูลว่า การโอนเงินนั้น หลักฐานการจ่ายไม่ระบุชื่อเจ้าของบัญชีมาตั้งเเต่ปี 2551-2559 รวม 10 ปี โดยอ้างว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่มีการระบุ  เพิ่งมาระบุเมื่อปี 2560 ธนาคารก็โอนโดยไม่ตรวจสอบ ว่าชื่อบัญชีตรงกับชื่อของสถานศึกษาซึ่งเป็นผู้รับเงินหรือไม่ จึงตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดธนาคารจึงปล่อยให้มีการโอนเงิน โดยการโอนเงินไปยังโรงเรียน ตั้งแต่ปี 2551-2559 การโอนเงินเป็นการโอนผ่านระบบจีโร่ (GIRO) ซึ่งมีขั้นตอนที่ต้องใช้ 3 ส่วน คือ ชื่อบัญชี เลขบัญชีและจำนวนเงิน แต่การโอนเงินช่วงปีนี้ มีเพียง 2 ส่วนเท่านั้น 

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ ป.ป.ท.ตรวจพบเอกสารเพิ่มเติมที่บ้านของนางรจนาว่าอาจจะมีการทุจริตเพิ่ม 30 ล้านบาทนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำนวนเงินเดียวกันกับที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงตรวจสอบพบจำนวน 30 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งเป็นเงินก้อนที่หายไปจากเอกสารปี 2550 ,2551 และ 2553 โดยพบว่าบางส่วนเป็นบัญชีปลอม และปิดไปแล้ว ขณะที่บางส่วนโอนไปยังบัญชีของนักเรียนจริง จึงสรุปไม่ได้ว่าเงินก้อนทั้ง 30 ล้านจะเป็นเงินที่มีการทุจริตเพิ่ม 


ทั้งนี้ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการเบิกจ่ายเงินกองทุนปีละ 1-2 ครั้ง พบมากสุด 4 ครั้ง ซึ่งเป็นประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมด้วยว่า เหตุใดจึงมีการโอนเงินหลายครั้ง ส่วนความคืบหน้าการระบุตัวเลขความเสียหายจากการทุจริตตามสถานศึกษาต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. รวบรวมได้ร้อยละ 90 แล้ว ซึ่งยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่ระบุได้เร็ว เพราะสถานศึกษาบางแห่ง แม้ขอรับเงินกองทุน แต่ไม่ทราบว่าได้รับเงินอนุมัติหรือไม่

นายอรรถพล กล่าวต่ออีกว่า ได้ประสานขอเอกสารเพิ่มเติมจากป.ป.ท. เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อมูลจากเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนก่อนที่จะเชิญผู้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเเละปรากฎชื่อในเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเบิกจ่ายกองทุนทั้ง 4 รายมาสอบสวนเพิ่มเติมเร็วๆนี้ ส่วนกรณีข้าราชการซี 8 ที่ได้เชิญมาพูดคุยถึง 3 ครั้งเเละปฏิเสธทั้ง 3 ครั้ง ตรงนี้ไม่กังวลว่าจะกระทบกับการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งหากไม่มา กระทรวงศึกษาธิการก็สามารถพิจารณาเอาผิดได้ตามหลักฐาน ส่วนการขยายผลกับข้าราชการตำแหน่งสูงนั้น ต้องตรวจสอบให้แน่นอน และไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องจะมีความผิด ต้องพิจารณบทบาทหน้าที่การเซนต์อนุมัติด้วย.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย