กรุงเทพฯ 22 มี.ค. – ราคาผลปาล์มร่วงไว หน้าลานปาล์มภาคใต้เหลือไม่ถึง 3 บาท/กก. ธพ.ตามติดสถานการณ์ยอมรับดูดซับสตอกเพิ่มขึ้นยาก เพราะของเดิมสตอกเต็มแล้วเกือบ 50-60 ล้านลิตร ยังไม่ได้ระบาย โดยกลุ่ม ปตท.รับภาระหนักสุดกว่า 53 ล้านลิตร จากสตอกบี 100 รวม 55.21 ล้านลิตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ผลปาล์มฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาด และพบว่าราคาลดลงอย่างรวดเร็ว ราคาหน้าลานรับซื้อภาคใต้บางพื้นที่อยู่ที่ประมาณ 2.80 บาท/กก.เท่านั้น ขณะที่กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ราคาขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 3.40 บาท/กก. และราคาน้ำมันปาล์มดิบลดลงเหลืออยู่ที่ 19.50 บาท/ลิตร จากช่วงต้นเดือนมีนาคมอยู่ที่ประมาณ 22.25 บาท/ลิตร ซึ่งขณะนี้ชาวสวนปาล์มเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาด่วน โดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้ประชุมล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มีนาคมได้สั่งเร่งแก้ไขปัญหาและเร่งรัดการส่งออก รวมทั้งให้กระทรวงพลังงานขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมันในการสตอกให้ได้ปริมาณสูงสุดทั้งในรูปไบโอดีเซลและซีพีโอ
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ธพ.ได้ประชุมร่วมกับผู้ค้าน้ำมัน แต่ยอมรับว่า ขณะนี้สตอกบี 100 เพิ่มขึ้นเป็นเรื่องยาก เพราะจากการที่ได้ร่วมดูดซับเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วรวมประมาณ 50- 60 ล้านลิตร ขณะนี้ยังไม่ได้ระบายออก โดยเดิมนั้นนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะขอความร่วมมือให้เก็บไว้เพียง 2 เดือน หรือถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 แต่ เนื่องจากปาล์มฤดูกาลใหม่ออกสู่ตลาด หากระบายออกก็จะกระทบต่อราคาปาล์ม ธพ.จึงขอความร่วมมือให้ใช้ระบบหมุนเวียนสตอกเท่านั้น โดยผู้ค้าน้ำมันต่างระบุว่าสตอกที่มีอยู่ส่งผลให้ภาระต้นทุนเพิ่มขึ้น
ส่วนการเพิ่มการใช้ไบโอดีเซล จากสูตรบี 7 เป็นบี 10 ซึ่งจะดูดซับซีพีโอได้เพิ่มจาก 75,600 ตัน/เดือน เป็น 108,000 ตัน/เดือนนั้น จากที่ ธพ.จ้างสถาบันวิจัย ปตท.ทดสอบบี 10 เชิงวิชาการ สามารถเพิ่มเป็นบี 10 ได้ในรถยนต์นั่ง และใช้บี 20 ได้สำหรับรถบรรทุก แต่พบว่าทางสมาคมยานยนต์ยังไม่ยอมรับ ขณะนี้จึงรอผลวิจัยจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษณ์พลังงาน (พพ.) เรื่องการปรับเพิ่มสารปรุงแต่งในบี 10 เพื่อให้รถยนต์นั่งใช้ได้ เพื่อป้องกันความหนืดในช่วงอากาศหนาวเย็น ซึ่งหากผลวิจัยออกมา ทางกระทรวงพลังงานจะนำผลไปหารือกับสมาคมยานยนต์ เพื่อให้รับมาตรฐานบี 10 และคาดว่าจะประกาศใช้ได้ในปลายปีนี้
“ทางกระทรวงพลังงานพร้อมให้ความร่วมมือดูดซับปาล์ม แต่ไม่ใช่หน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหา แต่ยอมรับว่าขณะนี้สตอกบี 100 เต็มแล้ว คงจะดูดซับได้ยาก เพียงแต่คงจะใช้ได้เพียงการหมุนเวียนสตอก ซึ่งก็คงจะช่วยได้น้อยมาก” นายวิฑูรย์ กล่าว
ทั้งนี้ รายงานการเก็บสตอกของผู้ค้าน้ำมันเพื่อช่วยเหลือดูดซับสต๊อกปาล์ม ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคมพบว่ามีการสตอกบี 100 รวม 55.21 ล้านลิตร และสตอกซีพีโอ โดยบางจากฯ 13,500 ตัน ซึ่งในส่วนการสตอกบี 100 พบว่า ปตท.สตอกสูงสุด 40 ล้านลิตร รองลงมาไทยออยล์ 11.44 ล้านลิตร ไออาร์พีซี 1.80 ล้านลิตร โรงกลั่นเอสพีอาร์ซี 0.50 ล้านลิตร เชฟรอน และดีลเลอร์ของซัสโก้ สตอกเท่ากัน ประมาณ 0.40 ล้านลิตร เชลล์และเอสโซ่ สตอกเท่ากันที่ 0.30 ล้านลิตร และซัสโก้ สตอก 0.07 ล้านลิตร. -สำนักข่าวไทย