ชัยนาท 14 มี.ค. – ก.เกษตรฯ มีเป้าหมายเพิ่มปริมาณข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ จ.ชัยนาท ส่งเสริมให้เกษตรกร อ.สรรคบุรี พักทำนาในหน้าแล้ง รวมตัวเป็นแปลงใหญ่แล้วปลูกข้าวโพด ซึ่งขายได้ราคาสูงกว่าข้าว
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกร อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท ปลูกเป็นรุ่นแรก ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ สำนักงานเกษตรอำเภอ ส่งเสริมให้พวกเขาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในฤดูแล้งปีนี้เป็นปีที่ 2 ซึ่งจดทะเบียนเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนเงินทุนครัวเรือนละ 15 ไร่ ไร่ละ 2,000 บาท เป้าหมายสำคัญ คือ ให้เกษตรกรมีรายได้ แม้ในหน้าแล้ง อีกประการคือ เพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ซึ่งมีไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าเป็นจำนวนมาก
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีอายุตั้งแต่หยอดเมล็ดจนเก็บเกี่ยวได้ 120 วัน เป็นพืชไร่ที่ต้องการปุ๋ยในช่วงต้นยังเล็ก และใช้น้ำน้อย
เกษตรกรกล่าวว่า ต้นทุนปลูกข้าวไร่ละ 5,000-5,500 บาท ส่วนข้าวโพด 4,000-4,500 บาท ข้าวขายได้กิโลกรัมละ 6 บาท ข้าวโพดขายได้กิโลกรัมละ 8 บาท เมื่อรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ มีบริษัทมารับซื้อ ประกันราคาไว้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 9 บาท
การส่งเสริมปลูกข้าวโพดในหน้าแล้ง กรมส่งเสริมการเกษตร ต้องการปรับห้วงผลผลิตข้าวโพดออกสู่ตลาด จากเดิมกระจุกตัวออกในฤดูฝนร้อยละ 95 หน้าแล้งร้อยละ 5 เปลี่ยนมาเป็น 50/50 ข้าวโพดที่ออกในหน้าแล้ง ยังมีข้อดี ความชื้นต่ำ ฝักสมบูรณ์ คุณภาพเมล็ดดี เกษตรกรขายได้ราคาสูงขึ้น. – สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ