กกต. 4 ต.ค.-“สมชัย” เผยที่ประชุม กกต.รับทราบมติผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้มูล “ธีรวัฒน์” ผิดจริยธรรมร้ายแรง มอบให้ฝ่ายกฎหมายเสนอชื่อกรรมการสอบตามประมวลจริยธรรม กกต.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงถึงการประชุม กกต. วันนี้ (4 ต.ค.) ว่า ที่ประชุมได้รับทราบหนังสือของผู้ตรวจการแผ่นดินที่แจ้งมติของผู้ตรวจการแผ่นดินว่านายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.มีพฤติกรรมเข้าข่ายผิดจริยธรรม ตามที่ประธานสภาพัฒนาการเมืองได้ยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบ เพื่อให้ประธาน กกต.ในฐานะหัวหน้าหน่วยงานดำเนินการตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ กกต. กกต.จังหวัด และพนักงาน กกต. พ.ศ.2551 ซึ่งที่ประชุมได้ดำเนินการตามกฎหมาย คือ รับเรื่องไว้และปฏิบัติตามขั้นตอนระเบียบของ กกต. และมอบหมายให้สำนักกฎหมายไปพิจารณาเสนอชื่อกรรมการ จำนวน 3-5 คน แล้วกลับมาเสนอที่ประชุมอีกครั้ง โดยประธานคณะกรรมการสอบสวนต้องมีตำแหน่งไม่ต่ำกว่าหรือเท่ากับผู้ถูกร้องเรียน
“จะไม่มีการปกป้อง หรือดึงเรื่องให้ช้า ทุกอย่างเป็นไปตามประมวลจริยธรรมของ กกต. แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้ กกต.จะทำไปเลย โดยไม่ต้องรอผลสรุปจาก ป.ป.ช.ที่มีผู้ร้องเรียนไปด้วย” นายสมชัย กล่าว
นายสมชัย กล่าวอีกว่า ในระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้ นายธีรวัฒน์ได้เดินออกจากห้องประชุม มีเพียง กกต. 4 คนที่พิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธีรวัฒน์ ถูกสภาพัฒนาการเมืองร้องเรียนว่ากระทำการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์และมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายขัดจริยธรรมอย่างร้ายแรงในขณะที่ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อเนื่องจนดำรงตำแหน่ง กกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีมติยุติเรื่องในประเด็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ เนื่องจากผู้ร้องได้มีการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว
สำหรับข้อกล่าวหาที่มีต่อนายธีรวัฒน์จะเข้าองค์ประกอบความผิดตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยประมวลจริยธรรมของ กกต. กกต.จังหวัด และพนักงาน กกต. พ.ศ.2551 หมวด 2 มาตรฐานจริยธรรม ข้อ 4 (1) (2) และข้อ 8 ที่ระบุว่า กกต. กกต.จังหวัด และพนักงานทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่โดยยึดมั่นในมาตรฐานจริยธรรม อันเป็นค่านิยมหลัก 9 ประการ (1) การยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม (2) การมีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ และข้อ 8 กกต. กกต.จังหวัด และพนักงานทุกคนต้องไม่ประพฤติตนอันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งในกลไกและระบบการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมข้อ 18 วรรคสาม ก็บัญญัติไว้ว่า กรณีมีการร้องเรียนหรือปรากฏเหตุว่า กกต. คนหนึ่งคนใดประพฤติปฎิบัติฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม ให้ กกต.ที่เหลืออยู่เป็นผู้รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย