เพชรบุรี 5 มี.ค. – พาณิชย์แจงไทยไม่ได้เข้าร่วมตอบโต้ “ทรัมป์” ตั้งกำแพงภาษีภายใต้ WTO ยืนยันขณะนี้ยังไม่มีการประกาศขึ้นภาษีเหล็กนำเข้าของสหรัฐ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่ากระทรวงพาณิชย์จะร่วมฟ้องร้องสหรัฐภายใต้องค์การการค้าโลก ( WTO) ร่วมกับประเทศคู่ค้าที่ได้รับความเสียหายจากการออกมาตรการทางการค้าของสหรัฐนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน โดยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศให้ขึ้นภาษีเหล็กนำเข้าภายใต้มาตรา 232 ของ Trade Expansion Act ของสหรัฐแต่อย่างใด เป็นเพียงการให้สัมภาษณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐเท่านั้นว่ามีแผนที่จะขึ้นอัตราภาษีเหล็กนำเข้าร้อยละ 25 และอลูมิเนียมร้อยละ 10 ซึ่งเป็นผลมาจากรายงานการไต่สวนสินค้านำเข้าภายใต้มาตรา 232 ดังนั้น จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าดังกล่าวของไทย อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าการดำเนินนโยบายและมาตรการทางการค้าของสหรัฐอย่างใกล้ชิด
“รายงานข่าวที่ระบุว่าสหรัฐมีแผนจะขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้า เกิดจากการสัมภาษณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐว่า โดยแผนการขึ้นภาษีดังกล่าวเป็นการดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ภายใต้มาตรา 232 ของ Trade Expansion Act ปี 1962 ซึ่งระบุให้มีการเปิดไต่สวนการนำเข้าสินค้าที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศขของสหรัฐ โดยไม่ใช่การใช้มาตรการภาษีปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น ( Safeguard ) ทั้งนี้ ในอดีตสหรัฐเคยจัดทำรายงานการไต่สวนสินค้านำเข้าภายใต้มาตรา 232 ว่าจะมีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าอื่น ๆ เช่นกัน ได้แก่ น้ำมันดิบและเหล็ก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีการประกาศใช้มาตรการทางการค้าใด ๆ” นายสนธิรัตน์ กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์การใช้มาตรการทางการค้าต่าง ๆ ของสหรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมการวางแผนรับมือและลดผลกระทบจากการใช้มาตรการของสหรัฐในอนาคตได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังประเมินการส่งออกของไทยไปตลาดสหรัฐว่าจะยังคงสามารถเติบโตได้ประมาณร้อยละ 7 เช่นเดิมตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ดำเนินนโยบายแสวงหาตลาดและโอกาสทางเศรษฐกิจ ผ่านการสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจกับประเทศในภูมิภาคต่างๆ ทั้งในระดับประเทศ ระดับรัฐ และเมือง เพื่อให้เข้าถึงตลาดที่มีกำลังซื้อและความต้องการอย่างแท้จริง ควบคู่ไปกับการจัดทำความตกลงเขตการค้าเสรีของไทยกับประเทศต่าง ๆ เพิ่ม เพื่อสร้างตลาดศักยภาพใหม่รองรับสำหรับผู้ประกอบการของไทยในอนาคตต่อไป.-สำนักข่าวไทย