ภูมิภาค 5 ต.ค.-สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครสวรรค์ ยังวิกฤติ พบมวลน้ำป่าไหลเข้าท่วมพื้นผิวการจราจรบนถนนสาย อ.ท่าตะโก-หนองบัว ระยะทางกว่า 400 เมตร พื้นที่เพาะปลูกจมน้ำเสียหายเกือบ 12 อำเภอ 300,000 ไร่ ด้านกรมชลประทานปรับเพิ่มการปล่อยน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา
ที่นครราชสีมา หลังจากเกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำภายในคลองลำคลังใน อ.โนนสูง ไหลเชี่ยวกราก ทำให้สะพานคอนกรีตขนาดใหญ่มีรอยแยกระหว่างกลางสะพาน สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชน จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซม เพราะระยะนี้กระแสน้ำค่อนข้างแรง เกรงว่าอาจพังทลายในวันใดวันหนึ่ง
หลังจากเกิดฝนตกหนักใน จ.นครสวรรค์ ประกอบกับมีมวลน้ำป่าจาก จ.พิจิตร และเพชรบูรณ์ ไหลมาสมทบกัน ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำยมและแม่น้ำน่านสูงขึ้น บางจุดเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวใน อ.ชุมแสง รวม 6 ตำบล เสียหายนับหมื่นไร่ นอกจากนี้ยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นผิวการจราจรบนถนนสายหลัก อ.ท่าตะโก และหนองบัว เป็นระยะทางยาวกว่า 400เมตร เจ้าหน้าที่ต้องนำรถแบคโฮขุดลอกเปิดปากท่อ
ส่วนที่บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่ จ.อ่างทอง ได้นำกระสอบทรายและแท่งแบริเออร์มาตั้งเป็นแนว เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจหลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนรอบที่ 2 ใน 1 เดือน เพื่อพร่องน้ำเตรียมพร้อมรอรับน้ำเหนืออีกระลอก.-สำนักข่าวไทย