กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – ม.หอการค้าไทยเผยผลสำรวจดัชนีคอร์รัปชันไทยเดือนธันวาคม 60 ลดลงต่อเนื่องเหลือ 52 คะแนน แต่ยังมีหวังคะแนนภาคประชาชนและเอกชนไม่เห็นด้วยคอร์รัปชั่นโตต่อเนื่อง ชี้รัฐบาลต้องเข้มการบังคับใช้กฎหมาย เพิ่มความเชื่อมั่น
นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทย หรือ CSI เดือนธันวาคม 2560 จำนวน 2,400 ตัวอย่างจากกลุ่มเป้าหมายทั้งข้าราชการ ผู้ประกอบการและภาคประชาชน พบว่า อยู่ที่ระดับ 52 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงการสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายน 2560 ที่ระดับ 53 คะแนน โดยประเมินจาก 4 หมวด ได้แก่ หมวดปัญหาความรุนแรง และหมวดการปราบปรามไม่ดีขึ้น ส่วนหมวดการป้องกัน และการสร้างจิตสำนึก ดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐจะต้องจ่ายเงินพิเศษ หรือเงินใต้โต๊ะ เพื่อให้ได้สัญญาหรือไม่นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 54 ไม่ต้องจ่าย ส่วนอีกร้อยละ 24 ยังต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะ ซึ่งจ่ายเฉลี่ยที่ร้อยละ 5-15 ของเม็ดเงินโครงการ โดยหากประเมินวงเงินคอร์รัปชั่นจากงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งงบลงทุนวิสาหกิจ จากเงินงบประมาณปี 2561 ที่ 2.9 ล้านล้านบาท จะเกิดเป็นมูลค่าวงเงินคอร์รัปชั่นประมาณ 100,0000-200,000 ล้านบาท ที่หายไปจากระบบ และกระทบต่อจีดีพีให้ลดลงร้อยละ 0.41 – 1.23
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า แม้คะแนนดัชนีคอร์รัปชั่นภาพรวมจะลดลง แต่ยังถือว่าเกิน 50 คะแนน สะท้อนว่าสถานการณ์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น แต่หากดู 3 ปีย้อนหลังตั้งแต่ปี 2558 มีคะแนนถึง 56 ถือว่าสถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยเริ่มอยู่ในขาลง ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปีนี้จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากอาจจะเกิดช่องทางให้เกิดการคอร์รัปชั่นได้ และขณะนี้ดัชนีการสร้างจริยธรรมสูงถึง 62 คะแนน ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการสำรวจเมื่อมิถุนายน 2560 ที่ 60 คะแนน ถือว่าภาคสังคม ภาคเอกชน และประชาชน ไม่ยอมรับการคอร์รัปชั่น และพร้อมที่จะช่วยกันป้องกันปัญหา
ทั้งนี้ ดัชนีวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันปี 2559 จัดโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ หรือTransparency International อันดับของไทยหล่นจากอันดับ 76 มาอยู่ในอันดับ 101 จาก 168 ประเทศ ซึ่งคะแนนโดยรวม ไทยลดลงจาก 38 เหลือ 35 จากคะแนนเต็ม 100. – สำนักข่าวไทย