กรุงเทพฯ 14 ก.พ. – ผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนไม่เห็นด้วยปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป หวั่นกระทบการผลิต สวนทางนโยบายส่งเสริมการลงทุน สร้างสัญญาณเชิงลบต่างชาติ
ตามที่สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ขอให้กระทรวงการคลังพิจารณาการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์ (CBU) ทุกยี่ห้อ จากร้อยละ 80 เหลือประมาณร้อยละ 40 ซึ่งได้รับการตอบรับจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แต่อัตราการจัดเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จะปรับลดลงหรือไม่ จะต้องติดตามจากมติคณะรัฐมนตรีนั้น คลัสเตอร์ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกอบด้วย กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย ไม่เห็นด้วยต่อการปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป โดยขอให้คงอัตราภาษีนำเข้าปัจจุบัน เพื่อเป็นการรักษาฐานการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนภายในประเทศ รักษาการจ้างงาน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในการดำเนินนโยบายของภาครัฐที่มีความชัดเจนต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากการปรับอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจะมีส่วนในการสร้างแรงจูงใจในการนำเข้าแทน การผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนภายในประเทศ ซึ่งข้อเท็จจริงอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมีส่วนสำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจและสร้างรายได้ให้กับประเทศมากกว่าร้อยละ 10 ของจีดีพีภาคอุตสาหกรรม และมีการจ้างงานมากกว่า 850,000 คน ตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการยานยนต์ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงอุตสาหกรรมสนับสนุน ซึ่งรวมจำนวนผู้ประกอบการแล้วมีมากกว่า 2,500 ราย อีกทั้ง ปี 2560 อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมียอดผลิตรถยนต์ที่ 1.98 ล้านคัน ดังนั้น การปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจะทำให้เกิดการนำเข้าทดแทนการผลิตภายในประเทศ และจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการจ้างงานของประเทศไทย รวมถึงยังมีโอกาสให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทยไปยังประเทศที่มีการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน
นอกจากนี้ การปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจะไม่สอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมการลงทุนและการรักษาฐานการผลิตของประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันภาครัฐมีการส่งเสริมการผลิตอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศในหลากหลายประเภทรถยนต์อย่างมาก อีกทั้งภาครัฐอยู่ระหว่างการส่งเสริมการลงทุนในเชิงพื้นที่ อาทิ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อส่งเสริมให้มีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายเพิ่ม ดังนั้น การปรับลดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปของภาครัฐจะสวนทางกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันและสร้างสัญญาณในเชิงลบต่อการลงทุน ไปยังนักลงทุนภาคเอกชนจากต่างประเทศที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนภายในประเทศไทยเพิ่มเติม
สำหรับอัตราโครงสร้างภาษีนำเข้าปัจจุบันทั้งรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนนั้น มีความสมดุลและเหมาะสมกับสภาพการแข่งขันระหว่างรถยนต์ที่ผลิตในประเทศและรถยนต์นำเข้าอยู่แล้ว การปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจะส่งผลให้ภาครัฐสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษีนำเข้า รวมถึงการที่ไม่สามารถสร้างรายได้จากการเก็บภาษีอื่น ๆ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อาทิ ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา เนื่องจากนักลงทุนลดปริมาณการผลิต และลดการจ้างงานภายในประเทศ ทำให้ปริมาณการเก็บภาษีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องลดลง.-สำนักข่าวไทย