เฟดคัพไทยต้านไม่ไหว พ่าย ญี่ปุ่น

อินเดีย 7 ก.พ.-เฟดคัพไทยต้านไม่ไหวแพ้ญี่ปุ่นนัดแรก “ลักษิกา” ขอสู้ใหม่แมทช์หน้าชนไต้หวัน


การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง “เฟดคัพ” ปี 2018 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่คานนา เทนนิส สเตเดี้ยม กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เริ่มวันแรก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการแข่งขันนัดแรกรอบพบกันหมดในสาย ซึ่งทีมไทย อยู่สาย บี นัดแรกเจอ ญี่ปุ่น ทีมเต็ง 1ของสาย

ก่อนที่จะเริ่มแข่งขัน เจ้าภาพ อินเดีย ได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยให้นักกีฬาทั้ง 8 ประเทศ ประกอบด้วย คาซัคสถาน จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไทย และ อินเดีย เดินพาเหรดลงสนามเพื่อเป็นการแนะนำทีมในช่วงสั้นๆ


จากนั้นเข้าสู่การแข่งขัน ทีมไทย พบ ญี่ปุ่น ในสนามหมายเลข 2 โดยคู่แรก เดี่ยวมือ 2 ลงหวด “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช มือ 224 ของโลก พบ คุรุมิ นาระ มือ 102 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยดวลแร็กเกตกันมาแล้ว 1 ครั้งในการแข่งขันบนสนามดิน ที่พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา ปี 2013 รอบแรก เพียงธาร แพ้ 3-6, 3-6

ส่วนครั้งนี้ เซตแรก นาระ อาศัยการหวดสโตรกได้เหนียวแน่น ดักสวนกลับเร็ว และเล่นแบบเปิดคอร์ตรอจังหวะ เพียงธาร เปิดช่องโหว่แล้วคอยชิงหวดวินเนอร์เก็บแต้มได้ตลอดก่อนชนะขาด 6-0 เซตสอง เพียงธาร ถูกเบรกในเกม 2 แต่จากนั้นก็พยายามที่จะวางบอลสั้น-ยาวสลับกัน และ บีบให้คู่แข่งต้องเคลื่อนที่มากขึ้น ซึ่งก็ได้ผล สาวไทยรักษาเกมเสิร์ฟในเกม 4 และ เกม 6 ไล่ตาม 2-4 นาระ ยังไม่พลาดเกมเสิร์ฟขยับนำ 5-2 เกมต่อมา เพียงธาร พลาดถูกเบรก ทำให้แพ้ไป 2-6 ส่งผลให้ เพียงธาร แพ้ 0-2 เซต 0-6, 2-6 ทำให้ไทยตามญี่ปุ่น 0-1 คู่

คู่สอง เป็นการพบกันของเดี่ยวมือ 1 “ลัก” ลักษิกา คำขำ มือ 1 ไทย มือ 99 ของโลก พบกับ นาโอะ ฮิบิโนะ มือ 90 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยพบกันในศึกเทนนิสเฟดคัพ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ปี 2016 โดยครั้งนั้น ลักษิกา แพ้ไป 1-2 เซต


เปิดฉากเซตแรก ลักษิกา ออกสตาร์ทได้ดีชิงจังหวะบุกกดดันจน ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ในเกม 4 ทำให้ถูกเบรก ลักษิกา นำ 3-1 ฮิบิโนะเบรกคืน จี้ติด 2-3 ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ถึง 2 ครั้งในเกมถัดมา ทำให้ ลักษิกา เบรกได้และขยับนำ 4-2 ทว่าเกมต่อมา ลักษิกา ถูกกดดันจากการวางบอลลึกของคู่แข่งทำให้เสียจังหวะและตีเสียเองหลายครั้งจนถูกเบรกกลับ แต่ยังนำอยู่ 4-3 สาวญี่ปุ่นรักษาเสิร์ฟตีเสมอ 4-4 และเบรกได้อีก ทำให้ ฮิบิโนะ พลิกมานำ 5-4 เกมต่อมา ฮิบิโนะ เล่นพลาด  ลักษิกา เบรกได้ ทำให้เสมอ 5-5 จากนั้น ลักษิกา เน้นเสิร์ฟหนัก สามารถรักษาเกมนี้ พลิกกลับมานำ 6-5  ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟแรก เปิดโอกาสให้ ลักษิกา โจมตีได้ตลอดก่อนเบรกเกมนี้ ปิดเซตแรก ลักษิกา ชนะ 7-5

เซตสอง ลักษิกา ออกนำ 3-0 จากนั้น ผลัดกันรักษาเสิร์ฟ ลักษิกา นำ 4-1 สาวญี่ปุ่นเสิร์ฟได้ไล่ตาม 2-4 ฮิบิโนะเบรกเสิร์ฟได้ไล่จี้ติด 3-4 แต่ ลักษิกา ก็ขยับนำอีก 5-3 จากการเบรกเสิร์ฟคืนได้ และเกมต่อมา ลักษิกา พลาดถูกเบรก แต่ยังนำ 5-4 ฮิบิโนะ รักษาเสิร์ฟตีเสมอ 5-5 แต่เกมต่อมา ลักษิกา เสิร์ฟได้ดีทำให้มีโอกาสบุกทำคะแนนได้ตลอดจนรักษาเสิร์ฟได้ขึ้นแท่นนำ 6-5 แต่สาวญี่ปุ่นก็ไล่ตีเสมอ 6-6 ต้องตัดสินด้วยไทเบรกและเป็นสาวญี่ปุ่นที่กลับมาคว้าชัย 7-6 ไทเบรก 7-5 เสมอ 1-1 เซต

และเซตสาม ฮิบิโนะ กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจเต็มที่ ขณะที่ ลักษิกา พยายามที่จะกลับมาอยู่ในเกมแต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นใจ เสียแต้มง่ายจากการตีผิดพลาดของตัวเองไปหลายครั้งทำให้ถูกเบรกเสิร์ฟตลอด ก่อนแพ้ขาด 0-6 ส่งผลให้ ลักษิกา แพ้ 1-2 เซต 7-5, 6-7(5-7), 0-6

ขณะที่ประเภทคู่ ไทยส่ง “อีฟ” ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย ลงคู่กับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช ขณะที่ญี่ปุ่น ส่ง มิยู กาโตะ กับ มาโกโตะ นิโนมิยะ ลงสนาม ซึ่งผลปรากฎว่า คู่นักหวดไทยไม่สามารถต้านคู่ญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์การเล่นเหนือกว่าได้พ่าย 0-2 เซตด้วยสกอร์ 3-6 และ 3-6 ส่งผลให้ ทีมไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-3 คู่ ส่วนการแข่งขันวันที่ 8 ก.พ. ทีมไทย จะพบ ไต้หวัน ที่นัดแรก แพ้เกาหลีใต้ 0-3 คู่

หลังการแข่งขัน ลักษิกา กล่าวว่า เสียใจและเสียดายที่ไม่สามารถเก็บแต้มให้ทีมได้ทั้งที่มีโอกาส ได้เซตแรกและเซตสองนำ 6-5 ก็ยังปิดแมทช์ไม่ได้ และต้องยอมรับว่าแมทช์นี้ไม่ได้เล่นตามเกมตัวเองเท่าไหร่หลุดง่ายและตีเสียเองง่ายไปหน่อย ทั้งๆ ที่คู่แข่งเองวันนี้ก็เล่นไม่ได้ตามฟอร์มเท่าไหร่ในเซตแรกและเซตสองมีแกว่งๆ เหมือนกัน แต่พอมาเซตสามนี่ยอมรับอีกว่าคู่ต่อสู้เล่นได้ดีไม่หลุดไม่เสีย กลับมาอยู่ในเกมคืนฟอร์มได้และมีความมั่นใจ

ลักษิกา กล่าวว่า ปัญหาที่เจอในสนามก็คือสภาพลมที่แรงและพื้นคอร์ตที่ไม่เรียบทำให้ลูกบอลตีออกไปก็จับจังหวะยาก ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่อยากเอามาใช้เป็นจุดที่ทำให้แพ้เพราะคู่แข่งเองก็ต้องเจอสภาพเดียวกันแต่สาเหตุที่แพ้มองว่าเป็นเพราะตัวเองมากกว่า ส่วนแมทช์ต่อไปเจอกับไต้หวัน ในวันที่ 8 ก.พ. ก็หนัก แต่ก็จะพยายามแก้ตัวคว้าชัยชนะให้ทีมไทยให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]