เฟดคัพไทยต้านไม่ไหว พ่าย ญี่ปุ่น

อินเดีย 7 ก.พ.-เฟดคัพไทยต้านไม่ไหวแพ้ญี่ปุ่นนัดแรก “ลักษิกา” ขอสู้ใหม่แมทช์หน้าชนไต้หวัน


การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง “เฟดคัพ” ปี 2018 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่คานนา เทนนิส สเตเดี้ยม กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เริ่มวันแรก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการแข่งขันนัดแรกรอบพบกันหมดในสาย ซึ่งทีมไทย อยู่สาย บี นัดแรกเจอ ญี่ปุ่น ทีมเต็ง 1ของสาย

ก่อนที่จะเริ่มแข่งขัน เจ้าภาพ อินเดีย ได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยให้นักกีฬาทั้ง 8 ประเทศ ประกอบด้วย คาซัคสถาน จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไทย และ อินเดีย เดินพาเหรดลงสนามเพื่อเป็นการแนะนำทีมในช่วงสั้นๆ


จากนั้นเข้าสู่การแข่งขัน ทีมไทย พบ ญี่ปุ่น ในสนามหมายเลข 2 โดยคู่แรก เดี่ยวมือ 2 ลงหวด “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช มือ 224 ของโลก พบ คุรุมิ นาระ มือ 102 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยดวลแร็กเกตกันมาแล้ว 1 ครั้งในการแข่งขันบนสนามดิน ที่พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา ปี 2013 รอบแรก เพียงธาร แพ้ 3-6, 3-6

ส่วนครั้งนี้ เซตแรก นาระ อาศัยการหวดสโตรกได้เหนียวแน่น ดักสวนกลับเร็ว และเล่นแบบเปิดคอร์ตรอจังหวะ เพียงธาร เปิดช่องโหว่แล้วคอยชิงหวดวินเนอร์เก็บแต้มได้ตลอดก่อนชนะขาด 6-0 เซตสอง เพียงธาร ถูกเบรกในเกม 2 แต่จากนั้นก็พยายามที่จะวางบอลสั้น-ยาวสลับกัน และ บีบให้คู่แข่งต้องเคลื่อนที่มากขึ้น ซึ่งก็ได้ผล สาวไทยรักษาเกมเสิร์ฟในเกม 4 และ เกม 6 ไล่ตาม 2-4 นาระ ยังไม่พลาดเกมเสิร์ฟขยับนำ 5-2 เกมต่อมา เพียงธาร พลาดถูกเบรก ทำให้แพ้ไป 2-6 ส่งผลให้ เพียงธาร แพ้ 0-2 เซต 0-6, 2-6 ทำให้ไทยตามญี่ปุ่น 0-1 คู่

คู่สอง เป็นการพบกันของเดี่ยวมือ 1 “ลัก” ลักษิกา คำขำ มือ 1 ไทย มือ 99 ของโลก พบกับ นาโอะ ฮิบิโนะ มือ 90 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยพบกันในศึกเทนนิสเฟดคัพ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ปี 2016 โดยครั้งนั้น ลักษิกา แพ้ไป 1-2 เซต


เปิดฉากเซตแรก ลักษิกา ออกสตาร์ทได้ดีชิงจังหวะบุกกดดันจน ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ในเกม 4 ทำให้ถูกเบรก ลักษิกา นำ 3-1 ฮิบิโนะเบรกคืน จี้ติด 2-3 ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ถึง 2 ครั้งในเกมถัดมา ทำให้ ลักษิกา เบรกได้และขยับนำ 4-2 ทว่าเกมต่อมา ลักษิกา ถูกกดดันจากการวางบอลลึกของคู่แข่งทำให้เสียจังหวะและตีเสียเองหลายครั้งจนถูกเบรกกลับ แต่ยังนำอยู่ 4-3 สาวญี่ปุ่นรักษาเสิร์ฟตีเสมอ 4-4 และเบรกได้อีก ทำให้ ฮิบิโนะ พลิกมานำ 5-4 เกมต่อมา ฮิบิโนะ เล่นพลาด  ลักษิกา เบรกได้ ทำให้เสมอ 5-5 จากนั้น ลักษิกา เน้นเสิร์ฟหนัก สามารถรักษาเกมนี้ พลิกกลับมานำ 6-5  ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟแรก เปิดโอกาสให้ ลักษิกา โจมตีได้ตลอดก่อนเบรกเกมนี้ ปิดเซตแรก ลักษิกา ชนะ 7-5

เซตสอง ลักษิกา ออกนำ 3-0 จากนั้น ผลัดกันรักษาเสิร์ฟ ลักษิกา นำ 4-1 สาวญี่ปุ่นเสิร์ฟได้ไล่ตาม 2-4 ฮิบิโนะเบรกเสิร์ฟได้ไล่จี้ติด 3-4 แต่ ลักษิกา ก็ขยับนำอีก 5-3 จากการเบรกเสิร์ฟคืนได้ และเกมต่อมา ลักษิกา พลาดถูกเบรก แต่ยังนำ 5-4 ฮิบิโนะ รักษาเสิร์ฟตีเสมอ 5-5 แต่เกมต่อมา ลักษิกา เสิร์ฟได้ดีทำให้มีโอกาสบุกทำคะแนนได้ตลอดจนรักษาเสิร์ฟได้ขึ้นแท่นนำ 6-5 แต่สาวญี่ปุ่นก็ไล่ตีเสมอ 6-6 ต้องตัดสินด้วยไทเบรกและเป็นสาวญี่ปุ่นที่กลับมาคว้าชัย 7-6 ไทเบรก 7-5 เสมอ 1-1 เซต

และเซตสาม ฮิบิโนะ กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจเต็มที่ ขณะที่ ลักษิกา พยายามที่จะกลับมาอยู่ในเกมแต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นใจ เสียแต้มง่ายจากการตีผิดพลาดของตัวเองไปหลายครั้งทำให้ถูกเบรกเสิร์ฟตลอด ก่อนแพ้ขาด 0-6 ส่งผลให้ ลักษิกา แพ้ 1-2 เซต 7-5, 6-7(5-7), 0-6

ขณะที่ประเภทคู่ ไทยส่ง “อีฟ” ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย ลงคู่กับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช ขณะที่ญี่ปุ่น ส่ง มิยู กาโตะ กับ มาโกโตะ นิโนมิยะ ลงสนาม ซึ่งผลปรากฎว่า คู่นักหวดไทยไม่สามารถต้านคู่ญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์การเล่นเหนือกว่าได้พ่าย 0-2 เซตด้วยสกอร์ 3-6 และ 3-6 ส่งผลให้ ทีมไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-3 คู่ ส่วนการแข่งขันวันที่ 8 ก.พ. ทีมไทย จะพบ ไต้หวัน ที่นัดแรก แพ้เกาหลีใต้ 0-3 คู่

หลังการแข่งขัน ลักษิกา กล่าวว่า เสียใจและเสียดายที่ไม่สามารถเก็บแต้มให้ทีมได้ทั้งที่มีโอกาส ได้เซตแรกและเซตสองนำ 6-5 ก็ยังปิดแมทช์ไม่ได้ และต้องยอมรับว่าแมทช์นี้ไม่ได้เล่นตามเกมตัวเองเท่าไหร่หลุดง่ายและตีเสียเองง่ายไปหน่อย ทั้งๆ ที่คู่แข่งเองวันนี้ก็เล่นไม่ได้ตามฟอร์มเท่าไหร่ในเซตแรกและเซตสองมีแกว่งๆ เหมือนกัน แต่พอมาเซตสามนี่ยอมรับอีกว่าคู่ต่อสู้เล่นได้ดีไม่หลุดไม่เสีย กลับมาอยู่ในเกมคืนฟอร์มได้และมีความมั่นใจ

ลักษิกา กล่าวว่า ปัญหาที่เจอในสนามก็คือสภาพลมที่แรงและพื้นคอร์ตที่ไม่เรียบทำให้ลูกบอลตีออกไปก็จับจังหวะยาก ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่อยากเอามาใช้เป็นจุดที่ทำให้แพ้เพราะคู่แข่งเองก็ต้องเจอสภาพเดียวกันแต่สาเหตุที่แพ้มองว่าเป็นเพราะตัวเองมากกว่า ส่วนแมทช์ต่อไปเจอกับไต้หวัน ในวันที่ 8 ก.พ. ก็หนัก แต่ก็จะพยายามแก้ตัวคว้าชัยชนะให้ทีมไทยให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

กู้ร่างครบแล้ว เหตุไฟไหม้โรงงานทิชชู เสียชีวิต 10 ราย

สระบุรี 2 ก.ค. – เหตุไฟไหม้โรงงานกระดาษทิชชู ในนิคมเหมราช จ.สระบุรี ล่าสุดพบร่างที่ 10 ซึ่งเป็นร่างสุดท้าย ถือว่าภารกิจการค้นหาสิ้นสุดแล้ว ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายกว่า 50 ชั่วโมง ยุติลงแล้ว หลังเกิดเพลิงไหม้อาคารบริษัทผลิตกระดาษทิชชู ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิว เอช เอ ซอย 8 อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ช่วงเที่ยงวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ทีมกู้ชีพ กู้ภัยร่วมกตัญญู กู้ภัยสว่างรัตนตรัย และกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับฝ่ายปกครอง และชุดค้นหาเร่งระดมสรรพกำลัง ปูพรมค้นหาร่างผู้สูญหาย 10 คน นำโดยนายสันทัศน์ รันดาเว นายอำเภอหนองแค ลงพื้นที่เกาะติดการค้นหาผู้สูญหาย ช่วง 10.30 น. มีรายงานจากทีมค้นหามูลนิธิร่วมกตัญญู แจ้งว่า ที่ชั้นบนของอาคารเกิดเหตุ พบร่างผู้สูญหายอีก 1 ร่าง อยู่ในสภาพเหลือแต่กระดูกบริเวณชั้นที่ 2 ฝั่งตะวันตกของโรงงาน ถือเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้รายที่ […]

เร่งคลี่คลายคดีโจรฉกเงิน-ทองคำ วัดม่วง

กทม. 2 ก.ค. – ตำรวจเร่งคลี่คลายคดีโจรวัดม่วง ลักเงินเจ้าอาวาส 10 ล้าน ทองคำ 250 บาท หายล่องหน ขณะที่อดีตพระคนสนิท เผยประตูกุฏิล็อกถึง 5 ชั้น เชื่อฝีมือคนใน พร้อมเรียกร้องตรวจสอบเงินบริจาควัด ความคืบหน้า เหตุคนร้ายย่องลักทรัพย์ เงิน 10 ล้าน-ทองคำหนัก 250 บาท ภายในกุฏิเจ้าอาวาส วัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค วันนี้ชุดสืบสวนของ บก.ปปป. ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีของ สน.เพชรเกษม เดินทางไปที่วัดม่วงเพื่อตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติม แต่เมื่อเดินทางไปที่กุฎิเจ้าอาวาส ปรากฏว่า กุฏิปิดเงียบล็อกกุญแจจากด้านหน้า ไร้เงาเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่ ปปป. จึงพยายามโทรไปหาเจ้าอาวาสแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่อดีตพระคนสนิทเจ้าอาวาสวัดม่วง เปิดเผยว่า หลังปรากฏข่าว เจ้าอาวาสได้ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความว่าเงินและทองคำภายในกุฏิหาย ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่ากุฏิดังกล่าวไม่มีรอยงัดแงะ และการจะเข้าไปภายในต้องผ่านประตูซึ่งล็อกถึง 5 ชั้น แทบไม่มีความเป็นไปได้ที่บุคคลอื่นจะเข้าไปได้ มองว่าตู้เซฟที่เก็บทรัพย์สินไว้นั้นมีขนาดใหญ่ การจะนำทรัพย์สินภายในออกไปน่าจะทำได้ยาก […]

ออกหมายจับ “บังเอ็น” มือยิงพ่อ-ลูก 1 ขวบดับ เมียเจ็บ

กระบี่ 2 ก.ค. – ออกหมายจับ “บังเอ็น” ยิงถล่มยกครัวเพื่อนบ้านดับพร้อมลูกวัยแค่ 1 ขวบเศษ ส่วนภรรยาบาดเจ็บ คาดปมเหตุนกขุนทองหลุดกรง จากเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่ ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ นายวิวัฒน์ หรือ “บังเอ็น” อายุ 41 ปี ใช้ปืนยิงถล่ม บ้านนายอภิวัฒน์ อายุ 37 ปี ทำให้นายอภิวัฒน์ และลูกสาววัยเพียง 1 ขวบ เสียชีวิต ส่วน น.ส.สุดารัตน์ ภรรยาของนายอภิวัฒน์ บาดเจ็บที่แขนขวา ล่าสุด ตำรวจเชิญตัว น.ส.หย้า อายุ 70 ปี แม่ของนายวิวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เข้าสอบปากคำที่ สภ.เกาะลันตา ให้ข้อมูลว่า มูลเหตุของเรื่องมาจากนกขุนทอง 2 ตัว ที่ลูกชายซื้อมาในราคา 8,000 บาท ซึ่งตนเป็นคนเลี้ยงและให้อาหารมาประมาณ 2 เดือน […]