เฟดคัพไทยต้านไม่ไหว พ่าย ญี่ปุ่น

อินเดีย 7 ก.พ.-เฟดคัพไทยต้านไม่ไหวแพ้ญี่ปุ่นนัดแรก “ลักษิกา” ขอสู้ใหม่แมทช์หน้าชนไต้หวัน


การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง “เฟดคัพ” ปี 2018 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่คานนา เทนนิส สเตเดี้ยม กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เริ่มวันแรก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการแข่งขันนัดแรกรอบพบกันหมดในสาย ซึ่งทีมไทย อยู่สาย บี นัดแรกเจอ ญี่ปุ่น ทีมเต็ง 1ของสาย

ก่อนที่จะเริ่มแข่งขัน เจ้าภาพ อินเดีย ได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยให้นักกีฬาทั้ง 8 ประเทศ ประกอบด้วย คาซัคสถาน จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไทย และ อินเดีย เดินพาเหรดลงสนามเพื่อเป็นการแนะนำทีมในช่วงสั้นๆ


จากนั้นเข้าสู่การแข่งขัน ทีมไทย พบ ญี่ปุ่น ในสนามหมายเลข 2 โดยคู่แรก เดี่ยวมือ 2 ลงหวด “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช มือ 224 ของโลก พบ คุรุมิ นาระ มือ 102 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยดวลแร็กเกตกันมาแล้ว 1 ครั้งในการแข่งขันบนสนามดิน ที่พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา ปี 2013 รอบแรก เพียงธาร แพ้ 3-6, 3-6

ส่วนครั้งนี้ เซตแรก นาระ อาศัยการหวดสโตรกได้เหนียวแน่น ดักสวนกลับเร็ว และเล่นแบบเปิดคอร์ตรอจังหวะ เพียงธาร เปิดช่องโหว่แล้วคอยชิงหวดวินเนอร์เก็บแต้มได้ตลอดก่อนชนะขาด 6-0 เซตสอง เพียงธาร ถูกเบรกในเกม 2 แต่จากนั้นก็พยายามที่จะวางบอลสั้น-ยาวสลับกัน และ บีบให้คู่แข่งต้องเคลื่อนที่มากขึ้น ซึ่งก็ได้ผล สาวไทยรักษาเกมเสิร์ฟในเกม 4 และ เกม 6 ไล่ตาม 2-4 นาระ ยังไม่พลาดเกมเสิร์ฟขยับนำ 5-2 เกมต่อมา เพียงธาร พลาดถูกเบรก ทำให้แพ้ไป 2-6 ส่งผลให้ เพียงธาร แพ้ 0-2 เซต 0-6, 2-6 ทำให้ไทยตามญี่ปุ่น 0-1 คู่

คู่สอง เป็นการพบกันของเดี่ยวมือ 1 “ลัก” ลักษิกา คำขำ มือ 1 ไทย มือ 99 ของโลก พบกับ นาโอะ ฮิบิโนะ มือ 90 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยพบกันในศึกเทนนิสเฟดคัพ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ปี 2016 โดยครั้งนั้น ลักษิกา แพ้ไป 1-2 เซต


เปิดฉากเซตแรก ลักษิกา ออกสตาร์ทได้ดีชิงจังหวะบุกกดดันจน ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ในเกม 4 ทำให้ถูกเบรก ลักษิกา นำ 3-1 ฮิบิโนะเบรกคืน จี้ติด 2-3 ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ถึง 2 ครั้งในเกมถัดมา ทำให้ ลักษิกา เบรกได้และขยับนำ 4-2 ทว่าเกมต่อมา ลักษิกา ถูกกดดันจากการวางบอลลึกของคู่แข่งทำให้เสียจังหวะและตีเสียเองหลายครั้งจนถูกเบรกกลับ แต่ยังนำอยู่ 4-3 สาวญี่ปุ่นรักษาเสิร์ฟตีเสมอ 4-4 และเบรกได้อีก ทำให้ ฮิบิโนะ พลิกมานำ 5-4 เกมต่อมา ฮิบิโนะ เล่นพลาด  ลักษิกา เบรกได้ ทำให้เสมอ 5-5 จากนั้น ลักษิกา เน้นเสิร์ฟหนัก สามารถรักษาเกมนี้ พลิกกลับมานำ 6-5  ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟแรก เปิดโอกาสให้ ลักษิกา โจมตีได้ตลอดก่อนเบรกเกมนี้ ปิดเซตแรก ลักษิกา ชนะ 7-5

เซตสอง ลักษิกา ออกนำ 3-0 จากนั้น ผลัดกันรักษาเสิร์ฟ ลักษิกา นำ 4-1 สาวญี่ปุ่นเสิร์ฟได้ไล่ตาม 2-4 ฮิบิโนะเบรกเสิร์ฟได้ไล่จี้ติด 3-4 แต่ ลักษิกา ก็ขยับนำอีก 5-3 จากการเบรกเสิร์ฟคืนได้ และเกมต่อมา ลักษิกา พลาดถูกเบรก แต่ยังนำ 5-4 ฮิบิโนะ รักษาเสิร์ฟตีเสมอ 5-5 แต่เกมต่อมา ลักษิกา เสิร์ฟได้ดีทำให้มีโอกาสบุกทำคะแนนได้ตลอดจนรักษาเสิร์ฟได้ขึ้นแท่นนำ 6-5 แต่สาวญี่ปุ่นก็ไล่ตีเสมอ 6-6 ต้องตัดสินด้วยไทเบรกและเป็นสาวญี่ปุ่นที่กลับมาคว้าชัย 7-6 ไทเบรก 7-5 เสมอ 1-1 เซต

และเซตสาม ฮิบิโนะ กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจเต็มที่ ขณะที่ ลักษิกา พยายามที่จะกลับมาอยู่ในเกมแต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นใจ เสียแต้มง่ายจากการตีผิดพลาดของตัวเองไปหลายครั้งทำให้ถูกเบรกเสิร์ฟตลอด ก่อนแพ้ขาด 0-6 ส่งผลให้ ลักษิกา แพ้ 1-2 เซต 7-5, 6-7(5-7), 0-6

ขณะที่ประเภทคู่ ไทยส่ง “อีฟ” ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย ลงคู่กับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช ขณะที่ญี่ปุ่น ส่ง มิยู กาโตะ กับ มาโกโตะ นิโนมิยะ ลงสนาม ซึ่งผลปรากฎว่า คู่นักหวดไทยไม่สามารถต้านคู่ญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์การเล่นเหนือกว่าได้พ่าย 0-2 เซตด้วยสกอร์ 3-6 และ 3-6 ส่งผลให้ ทีมไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-3 คู่ ส่วนการแข่งขันวันที่ 8 ก.พ. ทีมไทย จะพบ ไต้หวัน ที่นัดแรก แพ้เกาหลีใต้ 0-3 คู่

หลังการแข่งขัน ลักษิกา กล่าวว่า เสียใจและเสียดายที่ไม่สามารถเก็บแต้มให้ทีมได้ทั้งที่มีโอกาส ได้เซตแรกและเซตสองนำ 6-5 ก็ยังปิดแมทช์ไม่ได้ และต้องยอมรับว่าแมทช์นี้ไม่ได้เล่นตามเกมตัวเองเท่าไหร่หลุดง่ายและตีเสียเองง่ายไปหน่อย ทั้งๆ ที่คู่แข่งเองวันนี้ก็เล่นไม่ได้ตามฟอร์มเท่าไหร่ในเซตแรกและเซตสองมีแกว่งๆ เหมือนกัน แต่พอมาเซตสามนี่ยอมรับอีกว่าคู่ต่อสู้เล่นได้ดีไม่หลุดไม่เสีย กลับมาอยู่ในเกมคืนฟอร์มได้และมีความมั่นใจ

ลักษิกา กล่าวว่า ปัญหาที่เจอในสนามก็คือสภาพลมที่แรงและพื้นคอร์ตที่ไม่เรียบทำให้ลูกบอลตีออกไปก็จับจังหวะยาก ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่อยากเอามาใช้เป็นจุดที่ทำให้แพ้เพราะคู่แข่งเองก็ต้องเจอสภาพเดียวกันแต่สาเหตุที่แพ้มองว่าเป็นเพราะตัวเองมากกว่า ส่วนแมทช์ต่อไปเจอกับไต้หวัน ในวันที่ 8 ก.พ. ก็หนัก แต่ก็จะพยายามแก้ตัวคว้าชัยชนะให้ทีมไทยให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม