เฟดคัพไทยต้านไม่ไหว พ่าย ญี่ปุ่น

อินเดีย 7 ก.พ.-เฟดคัพไทยต้านไม่ไหวแพ้ญี่ปุ่นนัดแรก “ลักษิกา” ขอสู้ใหม่แมทช์หน้าชนไต้หวัน


การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง “เฟดคัพ” ปี 2018 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่คานนา เทนนิส สเตเดี้ยม กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เริ่มวันแรก เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเป็นการแข่งขันนัดแรกรอบพบกันหมดในสาย ซึ่งทีมไทย อยู่สาย บี นัดแรกเจอ ญี่ปุ่น ทีมเต็ง 1ของสาย

ก่อนที่จะเริ่มแข่งขัน เจ้าภาพ อินเดีย ได้จัดให้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ โดยให้นักกีฬาทั้ง 8 ประเทศ ประกอบด้วย คาซัคสถาน จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ ฮ่องกง ไทย และ อินเดีย เดินพาเหรดลงสนามเพื่อเป็นการแนะนำทีมในช่วงสั้นๆ


จากนั้นเข้าสู่การแข่งขัน ทีมไทย พบ ญี่ปุ่น ในสนามหมายเลข 2 โดยคู่แรก เดี่ยวมือ 2 ลงหวด “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช มือ 224 ของโลก พบ คุรุมิ นาระ มือ 102 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยดวลแร็กเกตกันมาแล้ว 1 ครั้งในการแข่งขันบนสนามดิน ที่พอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา ปี 2013 รอบแรก เพียงธาร แพ้ 3-6, 3-6

ส่วนครั้งนี้ เซตแรก นาระ อาศัยการหวดสโตรกได้เหนียวแน่น ดักสวนกลับเร็ว และเล่นแบบเปิดคอร์ตรอจังหวะ เพียงธาร เปิดช่องโหว่แล้วคอยชิงหวดวินเนอร์เก็บแต้มได้ตลอดก่อนชนะขาด 6-0 เซตสอง เพียงธาร ถูกเบรกในเกม 2 แต่จากนั้นก็พยายามที่จะวางบอลสั้น-ยาวสลับกัน และ บีบให้คู่แข่งต้องเคลื่อนที่มากขึ้น ซึ่งก็ได้ผล สาวไทยรักษาเกมเสิร์ฟในเกม 4 และ เกม 6 ไล่ตาม 2-4 นาระ ยังไม่พลาดเกมเสิร์ฟขยับนำ 5-2 เกมต่อมา เพียงธาร พลาดถูกเบรก ทำให้แพ้ไป 2-6 ส่งผลให้ เพียงธาร แพ้ 0-2 เซต 0-6, 2-6 ทำให้ไทยตามญี่ปุ่น 0-1 คู่

คู่สอง เป็นการพบกันของเดี่ยวมือ 1 “ลัก” ลักษิกา คำขำ มือ 1 ไทย มือ 99 ของโลก พบกับ นาโอะ ฮิบิโนะ มือ 90 ของโลก ซึ่งคู่นี้เคยพบกันในศึกเทนนิสเฟดคัพ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ปี 2016 โดยครั้งนั้น ลักษิกา แพ้ไป 1-2 เซต


เปิดฉากเซตแรก ลักษิกา ออกสตาร์ทได้ดีชิงจังหวะบุกกดดันจน ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ในเกม 4 ทำให้ถูกเบรก ลักษิกา นำ 3-1 ฮิบิโนะเบรกคืน จี้ติด 2-3 ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟดับเบิ้ลฟลอท์ถึง 2 ครั้งในเกมถัดมา ทำให้ ลักษิกา เบรกได้และขยับนำ 4-2 ทว่าเกมต่อมา ลักษิกา ถูกกดดันจากการวางบอลลึกของคู่แข่งทำให้เสียจังหวะและตีเสียเองหลายครั้งจนถูกเบรกกลับ แต่ยังนำอยู่ 4-3 สาวญี่ปุ่นรักษาเสิร์ฟตีเสมอ 4-4 และเบรกได้อีก ทำให้ ฮิบิโนะ พลิกมานำ 5-4 เกมต่อมา ฮิบิโนะ เล่นพลาด  ลักษิกา เบรกได้ ทำให้เสมอ 5-5 จากนั้น ลักษิกา เน้นเสิร์ฟหนัก สามารถรักษาเกมนี้ พลิกกลับมานำ 6-5  ฮิบิโนะ มาพลาดเสิร์ฟแรก เปิดโอกาสให้ ลักษิกา โจมตีได้ตลอดก่อนเบรกเกมนี้ ปิดเซตแรก ลักษิกา ชนะ 7-5

เซตสอง ลักษิกา ออกนำ 3-0 จากนั้น ผลัดกันรักษาเสิร์ฟ ลักษิกา นำ 4-1 สาวญี่ปุ่นเสิร์ฟได้ไล่ตาม 2-4 ฮิบิโนะเบรกเสิร์ฟได้ไล่จี้ติด 3-4 แต่ ลักษิกา ก็ขยับนำอีก 5-3 จากการเบรกเสิร์ฟคืนได้ และเกมต่อมา ลักษิกา พลาดถูกเบรก แต่ยังนำ 5-4 ฮิบิโนะ รักษาเสิร์ฟตีเสมอ 5-5 แต่เกมต่อมา ลักษิกา เสิร์ฟได้ดีทำให้มีโอกาสบุกทำคะแนนได้ตลอดจนรักษาเสิร์ฟได้ขึ้นแท่นนำ 6-5 แต่สาวญี่ปุ่นก็ไล่ตีเสมอ 6-6 ต้องตัดสินด้วยไทเบรกและเป็นสาวญี่ปุ่นที่กลับมาคว้าชัย 7-6 ไทเบรก 7-5 เสมอ 1-1 เซต

และเซตสาม ฮิบิโนะ กลับมาเล่นด้วยความมั่นใจเต็มที่ ขณะที่ ลักษิกา พยายามที่จะกลับมาอยู่ในเกมแต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นใจ เสียแต้มง่ายจากการตีผิดพลาดของตัวเองไปหลายครั้งทำให้ถูกเบรกเสิร์ฟตลอด ก่อนแพ้ขาด 0-6 ส่งผลให้ ลักษิกา แพ้ 1-2 เซต 7-5, 6-7(5-7), 0-6

ขณะที่ประเภทคู่ ไทยส่ง “อีฟ” ณิชาต์ เลิศพิทักษ์สินชัย ลงคู่กับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช ขณะที่ญี่ปุ่น ส่ง มิยู กาโตะ กับ มาโกโตะ นิโนมิยะ ลงสนาม ซึ่งผลปรากฎว่า คู่นักหวดไทยไม่สามารถต้านคู่ญี่ปุ่นที่มีประสบการณ์การเล่นเหนือกว่าได้พ่าย 0-2 เซตด้วยสกอร์ 3-6 และ 3-6 ส่งผลให้ ทีมไทย แพ้ ญี่ปุ่น 0-3 คู่ ส่วนการแข่งขันวันที่ 8 ก.พ. ทีมไทย จะพบ ไต้หวัน ที่นัดแรก แพ้เกาหลีใต้ 0-3 คู่

หลังการแข่งขัน ลักษิกา กล่าวว่า เสียใจและเสียดายที่ไม่สามารถเก็บแต้มให้ทีมได้ทั้งที่มีโอกาส ได้เซตแรกและเซตสองนำ 6-5 ก็ยังปิดแมทช์ไม่ได้ และต้องยอมรับว่าแมทช์นี้ไม่ได้เล่นตามเกมตัวเองเท่าไหร่หลุดง่ายและตีเสียเองง่ายไปหน่อย ทั้งๆ ที่คู่แข่งเองวันนี้ก็เล่นไม่ได้ตามฟอร์มเท่าไหร่ในเซตแรกและเซตสองมีแกว่งๆ เหมือนกัน แต่พอมาเซตสามนี่ยอมรับอีกว่าคู่ต่อสู้เล่นได้ดีไม่หลุดไม่เสีย กลับมาอยู่ในเกมคืนฟอร์มได้และมีความมั่นใจ

ลักษิกา กล่าวว่า ปัญหาที่เจอในสนามก็คือสภาพลมที่แรงและพื้นคอร์ตที่ไม่เรียบทำให้ลูกบอลตีออกไปก็จับจังหวะยาก ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่อยากเอามาใช้เป็นจุดที่ทำให้แพ้เพราะคู่แข่งเองก็ต้องเจอสภาพเดียวกันแต่สาเหตุที่แพ้มองว่าเป็นเพราะตัวเองมากกว่า ส่วนแมทช์ต่อไปเจอกับไต้หวัน ในวันที่ 8 ก.พ. ก็หนัก แต่ก็จะพยายามแก้ตัวคว้าชัยชนะให้ทีมไทยให้ได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]