กรุงเทพฯ25 ม.ค.- กฟภ. ไม่หวั่น Disruptive technology ชี้Solar rooftop ยิ่งเพิ่ม รายได้การให้บริการยิ่งสูง พร้อมจับมืออสังหาฯลุยธุรกิจ smart solution
นายเสริมสกุล คล้ายแก้ว. ผู้ว่าการการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค. (PEA) กล่าาวว่า กฟภ.มีการพัฒนาสอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทั้งเรื่อง Blockchain , smart Grid ,Smart City ,Smart Solution โดยจะร่วมกับพันธมิตร ในการร่วมพัฒนาโดยเร็วๆนี้จะลงนามกับ นารายณ์พร็อพเพอร์ตี้ในการดำเนินโครงการ smart home ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมีทั้งSolar Rooftop และวางระบบอื่นๆ
ในขณะเดียวกัน กฟภ. วางแผนเดินหน้า Smart Grid พื้นที่เชียงใหม่ นครราชสีมา, หาดใหญ่ จ. สงขลา ควบคู่การดำเนินโครงการนำร่องที่พัทยา จ. ชลบุรี
นายเสริมสกุลกล่าวด้วยว่า จากเทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามา ที่เรียกว่า Disruptive Technologyทั้งประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง(IPS) ด้วย solar rooftop การใช้ ยานยนต์ไฟฟ้า การติดตั้งระบบสำรองไฟฟ้า ในส่วนนี้ก็คาดว่า กฟภ.ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะสามารถปรับการมารับบริการในการต่อเชื่อมสายส่งส่งไฟฟ้าเข้าระบบ จากเดิมที่เป็นผู้จ่ายไฟฟ้าไปยังบ้านเรือนและ ยังพร้อมปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไป.
ทั้งนี้ การผลิตไฟฟ้าใช้เองของประชาชนและผู้ประกอบการ ประกอบกับสภาพอากาศที่มีฝนและอากาศเย็นปี2560 ทำให้ การใช้ไฟฟ้าสูงสุด(peak load) พื้นที่ กฟภ. อยู่ที่19,559 MW ลดลงร้อยละ4.31 ส่วนการจำหน่ายหน่วยไฟฟ้า ยังเพิ่มขึ้นร้อยละ2.10 อยู่ที่ประมาณ1.32 ล้านหน่วย โดย กฟภ.มีพนักงาน 29,842 คนลดลงร้อยละ0.91 มีกำไร 26,924 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ4 มีผู้ใช้ไฟฟ้า 19.36 ล้านรายเพิ่มปีละประมาณ 5 แสนราย
ส่วนในปี2561 จากที่ภาครัฐมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การส่งเสริมการลงทุนของเอกชน และการส่งออกที่ดีขึ้นก็คาดว่าความต้องใช้ไฟฟ้าจะสูงขึ้น โดย กฟภ. ตั้งงบลงทุนปีนี้ประมาณ3.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มเติมจากปีที่แล้วที่ลงทุนได้ตามเป้าหมายที่2.3 หมื่นล้านบาท ตามที่ทางรัฐบาลเร่งรัดการลงทุนและเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ- สำนักข่าวไทย