กรุงเทพ 9 ต.ค.- รัฐบาลแนะทำเกษตรแปลงใหญ่ ปฏิรูปภาคเกษตร ตั้งเป้าปีหน้า 1,000 แห่ง ลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต เลี่ยงความเสี่ยงภัยแล้ง-น้ำท่วม พร้อมจัดหาตลาดครบวงจร เล็งรวมกลุ่มปลูกผลไม้ป้อนตลาดจีน
พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเร่งปฏิรูปภาคการเกษตร โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนวิธีคิด และพฤติกรรมการเพาะปลูก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ ทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม โดยเฉพาะการจัดทำเกษตรแปลงใหญ่ บูรณาการทุกหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนการปลูกพืชของเกษตรกร และมีผู้จัดการแปลงดูแลทุกกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
“การรวมกลุ่มกันทำเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรกรสามารถกู้เงินได้ถึงแปลงละ 5 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 0.01 ต่อปี โดยปีนี้ตั้งเป้าจัดทำเกษตรแปลงใหญ่กับพืชชนิดต่าง ๆ 580 แห่ง พื้นที่รวม 1.4 ล้านไร่ และจะขยายผลในปี 2560 ให้เป็น 1,000 แห่งขึ้นไป พร้อมส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการเพาะปลูกและแปรรูปผลผลิต”พล.ท.สรรเสริญกล่าว
พล.ท. สรรเสริญ กล่าวว่า ล่าสุด การส่งเสริมนาแปลงใหญ่ ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงซื้อขายผลผลิตข้าว ระหว่างกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่กับโรงสีหรือสหกรณ์ที่รับซื้อข้าวทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมกันสนับสนุนตามแผนการผลิต และการตลาดข้าวครบวงจร เป็นการรับประกันว่า ผลผลิตข้าวของเกษตรกร จะมีผู้รับซื้อแน่นอน หลังจากที่ภาครัฐช่วยจัดหาเครื่องจักร อุปกรณ์การเกษตร แนะนำวิธีเพาะปลูก และเจรจาต่อรองให้แล้ว
“รัฐบาลยังจะกระตุ้นให้เกษตรกรหันไปปลูกมังคุด ทุเรียน กล้วยหอม ถั่วเหลือง ทั้งแบบปกติและแบบแปลงใหญ่ พร้อมกับลงนามความร่วมมือกับภาคเอกชนของจีน เพื่อให้รับซื้อผลผลิต ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก ตลอดจนช่วยป้องกันเกษตรกรถูกเอาเปรียบจากบริษัทเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการออกกฎหมายเกษตรพันธะสัญญา โดยจะต่อยอดให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เข้ามาบริหารจัดการในรายละเอียดต่อไป” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว .- สำนักข่าวไทย