กรุงเทพฯ 17 ม.ค. – “ศุภชัย” เตือนมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติรอบใหม่ จากหลายความเสี่ยง
ทั้งเงินสกุลดิจิทัล และ ฟองสบู่อีคอมเมิร์ซ
นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ
อังค์ถัด กล่าวในการสัมมนาความท้าทายบนเวทีการค้าและเศรษฐกิจโลกในทศวรรษหน้า ว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติรอบใหม่ ซึ่งต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจจะมาจากเงินสกุลดิจิทัล
หรือ คริปโต เคอเรนซี และ ฟองสบู่ จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (ดอทคอม เอฟเฟกต์) ปัจจุบันทั้งเงินสกุลดิจิทัล
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ราคาปรับขึ้นสูงมาก
และจะเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 โดยเฉพาะ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
รวมทั้งยังมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภาวะดอกเบี้ยในตลาดโลก หากปรับขึ้นเร็วเกินไปจะกระทบกับคนที่มีหนี้มากจนเกิดปัญหาได้
นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากความไม่เท่าเทียมในโลกที่เกิดขึ้นมาก
ยกตัวอย่าง ประเทศจีน ซึ่งเดิมเคยเป็นประเทศที่มีความเท่าเทียมกันมากที่สุด
แต่ปัจจุบันประเทศจีนกลับกลายเป็นประเทศที่มีช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนสูงมาก
ภาวะสังคมผู้สูงอายุที่จะกดดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นานศุภชัย
กล่าวว่าการเปลี่ยนศูนย์รวมอำนาจจากอเมริกาและยุโรป มายังเอเชียและตลาดเกิดใหม่
ถือเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องติดตามเช่นเดียวกับปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อเศรษฐกิจโลก
พร้อมให้จับตาการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากยุโรป ซึ่งจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคม
2562 เมื่อถึงเวลานั้น จะเห็นผลชัดเจนว่า กระทบจะรุนแรงเพียงใด
สุดท้ายคือความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ซึ่งแนวโน้มค่าเงินในสกุลภูมิภาคเอเชียจะยังแข็งค่าต่อเนื่อง
สาเหตุจากสภาพคล่องในโลกที่ล้นระบบ ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเอเชียและตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมีภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตดี
ดังนั้น แนวโน้มเงินบาทไทยมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก
เพราะปัจจุบันสินค้าส่งออกแข่งขันกันที่คุณภาพสินค้า อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศที่สูงถึง
200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่ามากเกินไป .- สำนักข่าวไทย