กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าต่อเนื่อง ด้านทองคำโลกพุ่ง 3 วันติดกว่า 126 ดอลลาร์/ออนซ์ เงินดอลลาร์อ่อนค่า แรงกดดันจากความกังวลเสถียรภาพการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 32.69 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” ตามทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ ที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเสถียรภาพการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ ดังจะเห็นได้จากแรงขายสินทรัพย์สหรัฐฯ ทั้งหุ้นและพันธบัตรรัฐบาล คล้ายกับช่วงตลาดกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังเผชิญการประกาศภาษีนำเข้าตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในช่วงก่อนหน้า โดยการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ เมื่อเทียบกับบรรดาบอนด์ยีลด์ 10 ปี ของประเทศเศรษฐกิจหลัก กลับไม่ได้ช่วยหนุนเงินดอลลาร์ เหมือนในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เงินบาทยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการทยอยปรับตัวขึ้นบ้างของราคาทองคำ โดยผู้เล่นในตลาดต่างยังคงต้องการถือทองคำอยู่ในช่วงนี้ ท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นเสถียรภาพการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนของปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกัน การปรับสถานะถือครองของผู้เล่นในตลาด อาทิ การปรับลดสถานะ Long USDTHB (มองเงินบาทอ่อนค่า) หลังเงินบาทแข็งค่าหลุดโซนแนวรับ 32.75-32.85 บาทต่อดอลลาร์ ก็มีส่วนหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเช่นกัน
แนวโน้มของค่าเงินบาท มองว่ามีความเสี่ยงที่อาจแข็งค่าขึ้นทดสอบโซนแนวรับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนการแข็งค่าสุดของปี 68 ได้ไม่ยาก โดยประเด็นความกังวลเสถียรภาพการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯ จะทยอยคลี่คลายลง ซึ่งมองว่า ภาพดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ เมื่อตลาดรับรู้ความชัดเจนของ“Fiscal Bill” ที่บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนฯ ของพรรครีพับลิกัน กำลังร่างและพยายามผลักดันให้ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ อยู่ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของประเด็นดังกล่าว ก่อนวันหยุด Memorial Day 26 พฤษภาคมนี้
ด้านราคาทองคำในไทย ก็ไต่ระดับตามทองคำโลก เปิดตลาดเช้านี้ เพิ่มขึ้น 100 บาท ทองแท่งขายออก 51,500 บาท ทองรูปพรรณขายออก 52,300 บาท ในขณะที่สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพุธ (21 พ.ค.) รวม 126 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยราคาปิดวานนี้ราคาส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 28.90 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 3,313.50 ดอลลาร์/ออนซ์ นักลงทุนเข้าซื้อทองคำท่ามกลางสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่แน่นอน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ พยายามผลักดันร่างกฎหมายปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลให้ผ่านสภาคองเกรส แต่นักวิเคราะห์เตือนว่า การปรับลดอัตราภาษีครั้งใหม่จะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3-5 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ และมีข่าวบ่งชี้ว่า อิสราเอลกำลังเตรียมการโจมตีเป้าหมายในโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน. -511-สำนักข่าวไทย