กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยสัปดาห์นี้ ตลาดจับตาตัวเลขส่งออก ส.ค.-ฟันด์โฟลว์ต่างชาติ-ถ้อยแถลงเฟด-ราคาทองคำตลาดโลก มองกรอบค่าเงินบาทที่ 31.50-32.20 บาท/ดอลลาร์ฯ คาดดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,275 และ 1,250 จุด แนวต้านที่ 1,300 และ 1,315 จุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าตามแรงขาย หลังมีข่าวทางการอาจพิจารณามาตรการลดผลกระทบจากธุรกรรมทองคำที่มีต่อเงินบาท ขณะที่ ธปท. ระบุว่ายังไม่เห็นสัญญาณผิดปกติที่สะท้อนการเก็งกำไรค่าเงินบาท ซึ่งที่ผ่านมา ธปท.ได้เข้าดูแลเพื่อลดความผันผวนของค่าเงินไม่ให้เคลื่อนไหวเร็วและแรงเกินไป ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ ได้แรงหนุนให้ฟื้นตัวกลับมา หลังเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งลดดอกเบี้ยและยังห่วงเงินเฟ้อ
ส่วนสัปดาห์นี้ (22-26 ก.ย.) ธนาคารกสิกรไทย มองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 31.50-32.20 บาท/ดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือน ส.ค. ของไทย ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และราคาทองคำในตลาดโลก ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือน ส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 (final) ดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ของผู้บริโภคเดือน ก.ย. ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ อังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น รวมถึงการประกาศอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน

ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 เดือนครึ่ง ที่ 1,312.74 จุด ในระหว่างสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ และรายงานข่าวเรื่องการบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และจีน เกี่ยวกับแพลตฟอร์มคลิปวิดีโอสั้นของบริษัทจีน ก่อนที่ SET Index จะย่อตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์ หลุดแนว 1,300 จุด ตามแรงขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ หลังทราบผลการประชุมเฟด
ส่วนสัปดาห์นี้ (22-26 ก.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,275 และ 1,250 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,315 จุด โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือน ก.ย. (เบื้องต้น) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านมือสอง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือน ส.ค. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือน ก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น.-516-สำนักข่าวไทย