นายกฯ ให้โอวาทวันเด็ก รู้จักคิดวิเคราะห์

ทำเนียบฯ 13 ม.ค.-นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทวันเด็ก ประจำปี 2561 แนะผู้ปกครองสนับสนุนสิ่งที่บุตร-หลานชอบ ระบุเด็กและเยาวชนต้องรู้จักคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล อะไรดี ไม่ดี ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ เตือนอย่าฟังวาทกรรมคนไม่ดี ย้ำลุงตู่พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 กล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน ว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีเพื่อรองรับโลกโลกาภิวัตน์ที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือทำอย่างไรให้เด็กไทยเติบโตอย่างเหมาะสมในยุค 4.0 ที่ใช้หุ่นยนต์และเทคโนโลยีเป็นหลัก ซึ่งทุกคนต้องใช้สติปัญญาในการขับเคลื่อนและดำรงชีวิต โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีมาขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศ ถือเป็นสิ่งสำคัญ

“อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองต้องสนับสนุนบุตรหลานให้เหมาะสมกับสิ่งที่เขาต้องการ เพื่อมีความคิดที่สร้างสรรค์ เพราะทุกคนมีพรสวรรค์ ดังนั้นต้องหาพรสวรรค์ให้เจอ ผมอยากให้ลูกหลานทุกคนใช้เวลา 24 ชั่วโมงให้คุ้มค่าและมีค่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การเล่น พักผ่อน หรือออกกำลังกาย เพราะจะมีผลต่ออนาคตข้างหน้าเมื่อทุกคนโตขึ้น วันนี้รู้สึกดีใจและขอบคุณพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่พาบุตรหลานมาเที่ยวงานวันเด็ก เพื่อให้ได้เปิดกว้างโลกทัศน์ เสริมสร้างประสบการณ์สำหรับการเข้าสังคมในวันข้างหน้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกัน เพราะไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง พ่อ แม่ ผู้ปกครอง และรัฐบาลต้องร่วมมือกัน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน พร้อมปลูกฝั่งค่านิยมที่ดีแก่บุตรหลาน และใช้ชีวิตอย่างพอเพียง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาในชีวิตประจำวันของทุกคน ดังนั้นต้องคิดว่าจะใช้เทคโนโลยีอย่างไรให้เหมาะสม แต่สิ่งสำคัญต้องการให้เด็กและเยาวชนมีความรอบรู้ รู้กว้าง คิดอย่างมีเหตุผล รู้จักวิเคราะห์อะไรดี ไม่ดี

“ตอนนี้ลุงตู่ได้พยายามทำให้หลาน ๆ อย่างดีที่สุด ส่วนเรื่องประชาธิปไตย ขณะนี้รัฐบาลกำลังปูพื้นฐานเพื่อให้เกิดความมั่นคง ดังนั้นอย่าไปฟังอะไรให้ไม่สบายใจ รวมทั้งวาทกรรมที่คนไม่ดีสร้างขึ้นมา พร้อมช่วยกันระมัดระวังสิ่งที่ไม่ดีกับตัวเราและประเทศชาติของเรา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมบูธต่าง ๆ ที่นำมาจัดแสดงในวันนี้ และได้ร่วมร้องเพลงสะพาน , คืนความสุขให้คนในชาติ และคนดีไม่มีวันตาย กับกรมดุริยางค์ทหารบก จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินทักทายเด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง พร้อมมอบตุ๊กตาให้เป็นระลึก ก่อนเดินทางกลับในเวลา 12.00 น. โดยตลอดเส้นทางเดิน เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง ได้ส่งเสียงเรียกนายกรัฐมนตรี ลุงตู่  และให้กำลังใจในการทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไปนาน ๆ


สำหรับเด็กและเยาวจากทั่วประเทศที่เขียนคำอวยพรปีใหม่ให้นายกรัฐมนตรี ทำเนียบฯ ได้นำมาจัดนิทรรศการ ที่บริเวณตึกไทยคู่ฟ้า โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบกลับ ส.ค.ส.เด็กและเยาวชน มีข้อความว่า “เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561 และวันเด็ก ปี 2561 ขอขอบคุณเด็ก ๆ และเยาวชนทุกคนที่ได้อวยพรปีใหม่กับนายกรัฐมนตรี และได้มาร่วมงานวันเด็ก พร้อมผู้ปกครองในวันนี้ มีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะด้วยบรรยากาศเป็นมิตรต่อกัน และให้เห็นถึงความสุขที่ทุกคนได้รับ ทั้งในระยะเวลาที่ผ่านมาปีก่อน และปีใหม่นี้ และตลอดไป นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งรวมถึงเด็ก เยาวชน ผู้ใหญ่ ซึ่งต้องมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จ แข็งแรง เป็นคนดี และคนเก่งของประเทศไทยเพื่อพัฒนาบ้านเมืองของเราให้เจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน ด้วยรักและห่วงใยเสมอ”

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงกรณี  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอกและประเด็นการเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ซึ่งนายกรัฐมตรีไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนจะขึ้นรถเดินทางออกจากทำเนียบฯ ทันที

สำหรับบรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ที่ทำเนียบฯ เป็นไปอย่างคึกคัก พ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้พาบุตรหลานมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และไฮไลท์ของงานวันเด็ก คือ การได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล คณะจัดงานวันเด็ก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เปิดให้เด็กเข้าไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2561 ซึ่งในปีนี้มีเด็กให้ความสนใจมาต่อแถวเพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เวลา 07.30 น. โดยเด็กที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนแรก คือ ด.ญ.ฟาดิฬะ ลาตีฟี อายุ 6 ปี นักเรียนอนุบาล 1 โรงเรียนพึงรำลึก จังหวัดนนทบุรี

จากการสอบถาม ด.ญ.ฟาดิฬะ ลาตีฟี ได้มาเที่ยวงานวันเด็ก ที่ทำเนียบฯ พร้อมกับ ด.ช.อะลา ลาตีฟี อายุ 12 ปี นักเรียนโรงเรียนท่าอิฐศึกษา จังหวัดนนทบุรี โดยคุณอาและพี่สาวเป็นคนพามาเที่ยว ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ได้มาเที่ยวงานวันเด็ก ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยตื่นนอนตั้งแต่เวลา 04.00 น. เพื่อเตรียมตัวมาเที่ยวงานวันเด็ก และเดินทางมาถึงทำเนียบฯ ในเวลา 07.00 น. ซึ่งเด็กทั้งสองคนมีความตั้งใจอย่างมากที่จะมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก สำหรับความใฝ่ฝัน โตขึ้น ด.ญ.ฟาดิฬะ ลาตีฟี อยากเป็นคุณหมอรักษาคนไข้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ส่วน ด.ช.อะลา ลาตีฟี มีความสนใจด้านการเมือง อยากจะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เด็กทั้งสองคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ว่า ขอให้ลุงตู่ สู้ ๆ อยู่เป็นนายกรัฐมนตรีนาน ๆ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้เผยแพร่กลอนที่นายกรัฐมนตรีได้แต่งเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561 , วันเด็กแห่งชาติ ปี 2561และวันครู ปี 2561 มีเนื้อความว่า

ถึงปีใหม่ ให้ไทย มีความหวัง 

เพิ่มพลัง แรงใจ ให้สุขสม

เปลี่ยนผ่านสู่ ประชาธิปไตย ไทยนิยม

ไม่หน้าชื่น อกตรม เช่นผ่านมา

ถึงวันเด็ก เร่งสร้าง คนรุ่นใหม่

ไทยสร้างไทย สืบสาน การศึกษา

เร่งปฏิรูป ผลงาน ต่อผ่านมา

ให้ก้าวหน้า เท่าทัน การเปลี่ยนแปลง

อีกวันครู ผู้ให้ กับเด็กเด็ก

ตั้งแต่เล็ก จนโต ไม่หน่ายแหนง

แม้ยังทุกข์ ยังทุ่มเท ไม่อ่อนแรง

เพื่อเปลี่ยนแปลง สังคมไทย ให้ยั่งยืน

.-235 (225)  .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย