พรรคประชาธิปัตย์ 4 ม.ค.- “อภิสิทธิ์” ปัดวิเคราะห์อนาคตทางการเมือง “พล.อ.ประยุทธ” ย้ำปชป.จะเดินหน้าเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่มีความคิดจับมือกับเพื่อไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับขณะนี้เป็นนักการเมืองว่าเป็นเรื่องดี เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมานานพอสมควร ก็ควรมีความชัดเจน เพราะบทบาทที่ทำอยู่เป็นเรื่องของการเมืองทั้งนั้น แต่สังคมจะติดบทบาทของทหาร ซึ่งความหมายของทหารคือผู้ที่อยู่ในกองทัพ มีบทบาทแตกต่างออกไป ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง หากแยกให้ชัดก็เป็นเรื่องดี
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมาเข้าใจหัวอกนักการเมือง แต่ขอให้ปฏิรูปโดยทำให้เห็นว่านักการเมืองที่ดีจะต้องเป็นอย่างไร คือต้องมุ่งหน้าแก้ปัญหาให้กับประชาชน รับฟังเสียงประชาชน พร้อมรับการตรวจสอบ และยอมรับความแตกต่างทางความคิด อย่างไรก็ตามไม่ขอวิเคราะห์ว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับว่าเป็นนักการเมือง ถือเป็นการเปิดตัวสำหรับอนาคตทางการเมืองหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ต้องถามพล.อ.ประยุทธ์เอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าทำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นที่พึ่งได้ เชื่อว่าหลังจากนี้คงมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นหลายพรรค ส่วนจุดยืนของแต่ละพรรคจะเป็นอย่างไร คงต้องคอยติดตามดู ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากมีปัญหาเกี่ยวกับกรอบเวลาตามโรดแมปไม่ใช่ความรับผิดชอบของสนช.และคสช.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตารางเวลาเลือกตั้งผูกอยู่กับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเงื่อนไขสำคัญคือกฎหมายลูกอีก 2 ฉบับต้องเสร็จเรียบร้อย หากมีการเลื่อนออกไป เหตุหนึ่งที่จะเกิดได้ก็คือเรื่องของกฎหมาย จึงอยากให้คสช.มีความชัดเจน ตรงไปตรงมากับประชาชน หากตั้งใจเดินตามโรดแมปในฐานะผู้มีอำนาจ ก็ต้องรับผิดชอบให้เดินไปตามนี้ เพราะแม่น้ำทุกสายมาจากคสช.ทั้งสิ้น และคสช.ต้องรับผิดชอบกับผลงานต่าง ๆ ที่ออกมา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่บอกว่าไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวข้องได้ในเรื่องของกฎหมายนั้น ไม่จริง เพราะคำสั่งคสช.ล่าสุดก็ออกมาแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง จึงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ เพราะคสช.มีอำนาจพิเศษที่อยู่เหนือทั้งนิติบัญญัติและตุลาการตามมาตรา 44 ดังนั้นหากยืนยันตามโรดแมปก็ให้ประกาศว่าหากมีปัญหา คสช.จะช่วยแก้ไข แต่ถ้าคิดว่าจะไม่เอาตามโรดแมปก็ต้องบอกให้ชัดว่าเพราะอะไร จึงจะเรียกว่ามีธรรมาภิบาลตามที่นายกรัฐมนตรีพูดทุกวัน
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ว่าด้วยเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายพรรคการเมืองว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังดูช่องทางทางกฎหมาย เพราะขณะนี้ตัวกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีผลบังคับใช้ จะสามารถยื่นตรงได้หรือไม่ หรือมีช่องทางในการยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็นคนละช่องทางตามรัฐธรรมนูญ จึงต้องดูให้รอบคอบว่าส่วนไหนมีความเหมาะสมที่สุด โดยฝ่ายกฎหมายจะสรุปและรายงานผลการพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นในแง่ของการขัดรัฐธรรมนูญ กระทบใคร อย่างไรบ้าง ซึ่งอาจไม่ตรงกันระหว่างผลกระทบที่มีต่อสมาชิกพรรค และพรรค
ส่วนกรณีที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้พรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ยืนยันหลายครั้งแล้วว่าพรรคมุ่งเตรียมความพร้อมเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนให้มากที่สุด การจะจับมือกับใครต้องยึดอุดมการณ์ที่ตรงกัน ซึ่งขณะนี้ไม่มีความคิดเรื่องนี้.-สำนักข่าวไทย