สติธร มอง 3 ชื่อชิงปธ.กมธ.ศึกษารธน.แค่โยนหินถามทาง

กรุงเทพฯ 9 พ.ย.- นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า มองการปรากฎชื่อ “อภิสิทธิ์-สุชาติ-บวรศักดิ์” ชิงตำแหน่งประธาน กมธ.ศึกษาแก้ไข รธน.เป็นการโยนหินถามทาง ระบุ ชื่อ “อภิสิทธิ์” ได้รับการยอมรับจากฝ่ายค้านมากกว่า


นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ความพยายามเสนอชื่อประธานกรรมาธิการรออกมา แสดงถึงการชิงความเป็นเจ้าภาพแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคพลังประชารัฐที่มีชื่อของนายสุชาติ ตันเจริญ อาจเป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐ มองโควต้าตำแหน่งประธานควรจะเป็น ส.ส.ของพรรค ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถือว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายหรือเงื่อนไขของพรรคในการเข้าร่วมเป็นรัฐบาล ดังนั้นผู้ทีมีความเหมาะสมคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่น่าจะมีสถานะความเป็นกลางและมีประสบการณ์เคยเป็นถึงนายกรัฐมนตรี ส่วนชื่อของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ น่าจะคล้ายกับการผ่าทางตัน ซึ่งนายบวรศักดิ์ มีภาพลักษณ์ของคนที่เคยร่างรัฐธรรมนูญมาก่อน และมีภาพลักษณ์ของรัฐบาลที่มีความสัมพันธ์กับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ลักษณะข่าวที่ออกมาในขณะนี้ จึงเป็นการโยนหินถามทางว่าแต่ละฝ่ายจะตอบรับชื่อบุคคลใดมากกว่ากัน แต่ความเป็นไปได้ว่าบุคคลใดจะได้ดำรงตำแหน่งประธานนั้น ต้องขึ้นอยู่กับภาคส่วนอื่นๆอย่างฝ่ายค้านและ ส.ว.ด้วย ส่วนตัวมองว่า ฝ่ายค้านน่าจะไปได้ดีกับนายอภิสิทธิ์ แต่ฝั่ง ส.ว.น่าจะสนับสนุนนายบวรศักดิ์มากกว่า 

นายสติธร กล่าวว่า หากประธานกรรมาธิการเป็นนายอภิสิทธิ์ กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นเพียงพิธีกรรมหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับนายอภิสิทธิ์ที่ต้องสลัดภาพการเป็นขั้วตรงข้ามกับฝ่ายค้าน และต้องให้ ส.ว.ไว้วางใจด้วยว่า กระบวนการที่เกิดขึ้นจะไม่ทำให้ฝั่งวุฒิสภาเสียอำนาจไป เพราะกรรมาธิการชุดดังกล่าวจะยังไม่ได้ลงรายละเอียดในรายมาตรา แต่หากประธานเป็นนายสุชาติ ก็จะลำบาก เพราะเป็นพรรคพลังประชารัฐและสถานะก็อยู่ในสภา ต้องให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการยอมรับของฝ่ายค้าน ก็พอเป็นไปได้ ทั้งนี้ องค์ประกอบในกรรมาธิการก็ต้องสมดุลกันด้วย ไม่เช่นนั้น จะถูกมองเป็นเรื่องการเสียเปรียบในการลงมติ และหากนายบวรศักดิ์ เป็นประธาน ก็จะถูกมองเป็นภาพของรัฐบาลเหมือนกัน ดังนั้น ความสมดุลของกรรมาธิการจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ.- สำนักข่าวไทย      


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว